อย่างไรก็ตามประมาณปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา ได้เริ่มมีนักลงทุนต่างชาติญี่ปุ่น ได้เริ่มมาลงทุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ในขณะการตั้งโรงงานจะกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ เช่น วังน้อย เสนา บางปะอิน เป็นต้น จึงยังไม่มีการรวมตัวกันจัดตั้งเป็นชมรมบริหารงานบุคคลขึ้นแต่อย่างใด
ประมาณปี พ.ศ. 2534 ได้มีการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ขึ้น ซึ่งต่อมาผู้บริหารงานบุคคลในสวนอุตสาหกรรมโรจนะจึงได้มีการรวมตัวเป็นกลุ่มบุคคลขึ้นในโรจนะ และหลังจากนั้นได้มีการพบปะกับผู้บริหารงานบุคคลในพื้นที่อื่นๆ เช่น เสนา วังน้อย และบางปะอิน ทำให้สมาชิกของกลุ่มได้เพิ่มขึ้นและไม่จำกัดอยู่ในเฉพาะโรจนะอีกต่อไป เพราะในขณะนั้นได้มีการตั้งนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ขึ้นตามลำดับ ทำให้จำนวนโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีทั้งโรงงานขนาดเล็ก-กลางและใหญ่ ที่มีพนักงานหลายพันคน และไม่จำกัดแต่เพียงชาติญี่ปุ่น นั้นเพราะมีไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย อเมริกัน ออสเตรเลีย และอื่นๆ อีกหลายประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาล ที่เราเรียกองค์กรนี้ว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ Board of Invertment (BOI)
ดังนั้นในปี พ.ศ. 2535 ชมรมบริหารงานอุตสาหกรรมอยุธยา (Ayutthaya Industrail Management : AIM) จึงได้ถูกจัดตั้งขึ้น และมีการขยายสมาชิกก่อตั้งออกไปในพื้นที่อื่นๆ อย่างต่อเนื่องจนมีสมาชิกครอบคลุมทุกพื้นที่อุตสาหกรรมและนอกพื้นที่อุตสาหกรรม โดยปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 100 บริษัทและตลอดระยะเวลาที่มีการจัดตั้งชมรมฯ คณะกรรมการบริหารชมรมฯ ทุกชุด ได้มีความมุ่งมั่นในการเป็นศูนย์กลางระหว่างสมาชิกชมรมด้วยกัน และเป็นสื่อกลางในการสร้างสรรและจัดกิจกรรมร่วมกันกับภาครัฐอย่างต่อเนื่องนอกเหนือจากการจัดให้มีการประชุมประจำเดือนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลข่าวสาร แล้ว ชมรมฯ ยังมีการจัดสัมมนา ให้กับสมาชิกและผู้สนใจที่ไม่ใช่สมาชิกชมรมบริหารงานบุคคลอยุธยา อีกด้วย จนชมรมฯ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ตามเพื่อให้สาธารณะชนหรือภาครัฐมีความเข้าใจในภาระกิจของรมชมฯ อย่างถูกต้องและชัดเจน คณะกรรมการบริหารชมรมฯ จึงได้ขอมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี พ.ศ. 2547 ขอเปลี่ยนชื่อชมรมฯ ใหม่ เป็น ชมรมบริหารงานบุคคลอยุธยา (Ayutthaya Personnel Management Group : APM)