>
Human + AI Collaboration: เมื่อเทคโนโลยีไม่ได้มาแทนที่คน แต่เป็นพลังเสริมขององค์กรยุคใหม่
Article
July 1, 2025

Human + AI Collaboration: เมื่อเทคโนโลยีไม่ได้มาแทนที่คน แต่เป็นพลังเสริมขององค์กรยุคใหม่

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทในเกือบทุกมิติของการทำงาน คำถามที่ตามมาคือ “มนุษย์จะยังจำเป็นอยู่หรือไม่?” แต่ในเวที Thailand HR Tech 2025 คุณ ศิเวก สัจจเดว ได้ชี้ให้เห็นมุมมองที่ต่างออกไปอย่างชัดเจนว่า AI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ หากแต่เป็น “เครื่องมือ” ที่ช่วยให้มนุษย์สามารถทำงานได้อย่างมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

AI สองบทบาท: เครื่องมือในมือ กับกลไกในระบบ

คุณศิเวก สัจจเดว อธิบายว่า AI สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

AI ที่เป็นเครื่องมือ เช่น ChatGPT ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ทันที ใช้งานง่าย เปิดปุ๊บใช้ได้เลย เป็นการนำ AI มาใช้แบบรายบุคคลเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพส่วนตัว

AI ที่ฝังอยู่ในกระบวนการทำงาน เช่น ระบบบัญชีที่สามารถสแกนคำสั่งซื้อและประมวลผลอัตโนมัติ เป็นการฝัง AI เข้าไปในระบบเพื่อยกระดับกระบวนการให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทั้งสองประเภทนี้ต่างมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในระดับบุคคลหรือระดับองค์กร

AI กับการพลิกโฉมงานบริการลูกค้า: กรณีตัวอย่างจากคุณศิเวก สัจจเดว

หนึ่งในตัวอย่างการใช้งานจริงที่คุณศิเวก สัจจเดว เล่าถึง คือการนำ AI มาใช้ในงานบริการลูกค้า เช่น กรณีที่ลูกค้ามีปัญหาเกี่ยวกับบัตรเครดิต หรือเครือข่ายโทรศัพท์ และติดต่อทีมสนับสนุน ซึ่งมักพบว่าพนักงานบางคนอาจยังไม่มีความรู้หรือประสบการณ์เพียงพอในการแก้ไขปัญหา

AI จึงถูกนำมาใช้เพื่อช่วยตอบคำถามหรือแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ทันที เช่น การใช้แชทบอทที่สามารถเรียนรู้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัท และตอบคำถามที่พบบ่อยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การใช้ AI ในลักษณะนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ แต่ยังช่วยลดภาระในการฝึกอบรมพนักงานใหม่ ซึ่งในบางธุรกิจอาจมีอัตราการลาออกสูง ทำให้ต้องอบรมซ้ำบ่อยครั้ง ทั้งยังช่วยลดต้นทุนด้านเวลาและทรัพยากรได้อย่างมีนัยสำคัญ

โดยเฉพาะเมื่อคำถามของลูกค้ามักเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ การให้ AI รับมือกับงานประเภทนี้จึงเป็นทางออกที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว และยั่งยืนสำหรับองค์กร

AI: เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ใช่ผู้มาแทนที่มนุษย์

หลายองค์กรเริ่มพัฒนาแชทบอทให้สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลภายใน เพื่อให้ตอบคำถามลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ กระบวนการค้นหาคำตอบเหล่านี้เกิดขึ้นในเสี้ยววินาที ช่วยให้การบริการรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คุณศิเวก สัจจเดว ยกตัวอย่างการใช้งาน AI ในระบบฟาร์มที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีทีมสนับสนุนเพียง 2 คน เมื่อลูกค้าทักแชทเข้ามา แชทบอทสามารถตอบคำถามได้ทันที เช่น เมื่อลูกค้าลืมวิธีใช้งานระบบ ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดคู่มือหรือรอเจ้าหน้าที่ แต่สามารถสอบถามบอทเพื่อรับคำตอบอย่างตรงจุดได้ทันที ช่วยลดภาระงานของทีม และรองรับคำถามได้แม้ในช่วงเวลานอกทำการ

นอกจากนี้ AI ยังสามารถแปลงเอกสารจากกระดาษสู่ระบบดิจิทัล และดึงข้อมูลจากเอกสารราชการภาษาไทยได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการเอกสาร ลดข้อผิดพลาด และทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานที่ต้องใช้ความคิดและการตัดสินใจมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องลดจำนวนคน แต่เปลี่ยนบทบาทของคนให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

สิ่งสำคัญคือ AI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์  แต่เป็น “เครื่องมือ” ที่ช่วยเสริมศักยภาพให้มนุษย์ทำงานได้ดีขึ้น มีเวลาและพลังในการสร้างสรรค์สิ่งที่มีมูลค่าสูงกว่า  การนำ AI มาใช้อย่างเหมาะสม จึงไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่คือการออกแบบอนาคตขององค์กรให้พร้อมรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน

AI ไม่ได้มาเพื่อลดคน แต่มาเพื่อลดขั้นตอน และเพิ่มคุณค่าให้กับคน

คุณศิเวก สัจจเดว เน้นย้ำว่า จุดประสงค์ของการนำ AI เข้ามาในองค์กร ไม่ใช่เพื่อ “ลดจำนวนคน” แต่เพื่อ “ลดความซับซ้อนของขั้นตอน” และ “เพิ่มคุณค่า” ให้กับบทบาทของมนุษย์

ยกตัวอย่างเช่น การกรอกและตรวจสอบข้อมูล ที่ในอดีตอาจต้องใช้คนทำหลายขั้นตอน และยังมีโอกาสผิดพลาด แต่เมื่อมี AI เข้ามาช่วยตรวจสอบ ความถูกต้องและความเร็วก็เพิ่มขึ้น งานซ้ำ ๆ ลดลง และทีมงานสามารถนำเวลาไปใช้กับงานที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์หรือสร้างคุณค่าทางกลยุทธ์ได้มากขึ้น

ทุกตัวอย่างที่คุณศิเวกพูดถึงล้วนสะท้อนว่า AI ไม่เคยเข้ามาแทนที่มนุษย์ทั้งหมด

แต่มาเป็น “ผู้ช่วย” ที่ช่วยให้ทีมทำงานได้คล่องตัวขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และปลดล็อกศักยภาพของคนในแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

คำพูดที่ทรงพลังของคุณศิเวกในตอนท้ายคือ:

“คุณจะไม่ได้โดนไล่ออกเพราะ AI แต่คุณจะถูกแทนที่โดยคนที่ใช้ AI ได้ดีกว่า”

ประโยคนี้ชี้ชัดว่า AI ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่คือโอกาสสำหรับผู้ที่พร้อมเปิดใจ ปรับตัว และเรียนรู้

เพราะสุดท้ายแล้ว การใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงช่วยเพิ่มผลลัพธ์ให้กับองค์กร แต่ยังช่วยให้พนักงานมีเวลาในการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ทำงานที่มีมูลค่าสูงขึ้น และเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล

Tag:
Article
Share this post:
พรรณวัฒน์ เจริญศิริ

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
Article
7 เหตุผลที่คุณต้องมาฟัง Dave Ulrich ในงาน HR DAY – PMAT 60th Anniversary International HR Conference
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ก่อนหน้าที่ทาง PMAT จะได้มีโอกาสเชิญบุคลากรผู้ทรงคุณค่าในวงการ HR อย่างศาสตราจารย์ Dave Ulrich มาปรากฏตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกนั้น หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า HR Competency กันมาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า Employee Champion (ผมแปลเองเป็นภาษาง่าย ๆ ว่า ผู้ชนะใจพนักงาน) เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว โลกของเรายังไม่ก้าวหน้ารวดเร็วเท่ากับยุคปัจจุบัน การเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ใน internet ก็ทำได้อย่างจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันในระดับที่ “ทันกับเวลา” จึงทำให้ HR หลาย ๆ ท่านเจอกำแพงอุปสรรคของการพัฒนาตนเอง เพราะเนื่องจากยังไม่เข้าใจบริบทในภาพกว้างของโลก / ธุรกิจ จึงยึดติดกับการพัฒนางานของตนเองในระดับปฏิบัติการมากกว่า อาทิเช่น ทักษะการใช้เครื่องมือนำเสนอ หรือทักษะการใช้การจัดเก็บความรู้ แต่เรายังไม่เข้าใจถึงแก่นว่าเพราะอะไรทำไมเราถึงต้องลุกขึ้นมาปัดฝุ่นการทำงานของเรา (HR Role and Competency) ให้ขึ้นมามีบทบาททางธุรกิจมากขึ้น และคนที่สะกิดบอกทั้งโลกว่า “เฮ้! งาน HR มันคืองานในระดับธุรกิจนะ” ก็คือ อาจารย์ Dave นี่เอง
October 7, 2025
Article
“ทำไม HR ต้องมีความกล้า” คำถามที่ท้าทายจาก Dave Ulrich
ชื่อของ Dave Ulrich ได้เป็นที่ยอมรับจากนักบริหารและผู้นำจากทั่วโลกว่า เป็นหนึ่งใน Guru ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาภาวะผู้นำที่ทรงอิทธิพลทางความคิดในระดับที่ปรับโฉมการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะ เพราะสิ่งที่ Dave Ulrich นำเสนอผ่านการเขียน การเดินทางไปบรรยายทั่วโลกด้วยมุมมอง แนวคิดที่ตกผลึกมาจากงานวิจัยอย่างลงลึกต่อเนื่อง ทำให้กรอบแนวคิดแต่ละช่วงเวลาของท่านได้สร้างแรงกระเพื่อมในวงการบริหารไปทั่วโลก
October 5, 2025
Article
เหตุผลที่คุณควรมาฟัง Erin Meyer อีกครั้งในงาน PMAT 2025
ท่านผู้อ่านเคยสงสัยหรือไม่ครับว่าองค์กรระดับโลกอย่าง Netflix สร้างวัฒนธรรมที่กระตุ้นนวัตกรรมได้อย่างไร? หรือเคยเผชิญความท้าทายในการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานต่างวัฒนธรรมที่การสื่อสารเกิดความเข้าใจผิด? นี่คือโอกาสที่พวกเรากำลังจะได้รับมุมมองและแนวทางแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านวัฒนธรรมองค์กร Erin Meyer ซึ่งกำลังจะกลับมาแบ่งปันความรู้กับผู้ฟังชาวไทยอีกครั้งในงาน PMAT 60th Anniversary HR International Conference 2025 ในระหว่างวันที่ 12–13 พฤศจิกายน 2025 นี้ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี และเปิดเวทีให้นักวิชาชีพ HR, ผู้เชี่ยวชาญ L&D, ผู้นำองค์กร และผู้สนใจด้านวัฒนธรรมการทำงาน ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสุดยอดนักคิดระดับโลก
October 2, 2025