>
Human + AI Collaboration: กลยุทธ์การอยู่ร่วมกับเทคโนโลยี โดยไม่ลดทอนทักษะมนุษย์
Article
July 2, 2025

Human + AI Collaboration: กลยุทธ์การอยู่ร่วมกับเทคโนโลยี โดยไม่ลดทอนทักษะมนุษย์

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทลึกซึ้งในการทำงานประจำวัน หลายองค์กรต่างเร่งพัฒนาและนำ AI มาใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสรุปรายงาน การจัดการข้อมูล หรือแม้แต่การติดต่อสื่อสารกับลูกค้า สิ่งเหล่านี้ล้วนมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และประหยัดเวลา แต่คำถามสำคัญคือ เราใช้ AI อย่างไร เพื่อไม่ให้ทักษะของมนุษย์ค่อย ๆ ถดถอย?

อริยพงษ์ พันธ์ศรีวงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัท FlexBen ได้กล่าวไว้บนเวที Thailand HR Tech 2025 ว่า AI ไม่ใช่ศัตรูของมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะพึ่งพาโดยปราศจากการออกแบบอย่างมีสติ เพราะแม้ AI จะช่วยงานได้ดีเพียงใด แต่หากเราปล่อยให้มันคิดแทนในทุกด้าน มนุษย์จะค่อย ๆ สูญเสียทักษะดั้งเดิมที่สำคัญโดยไม่รู้ตัว

AI: ไม่ใช่ผู้ร้าย แต่คือพระเอกที่เราต้องรู้จักใช้อย่างมีสติ

คุณอริยพงษ์ตั้งคำถามชวนคิดว่า  “หากวันหนึ่งเราไม่มี AI หรือเครื่องมืออัจฉริยะเหล่านี้ เราจะยังสามารถทำงานเหล่านั้นได้ด้วยตัวเองหรือไม่?”

คำถามนี้สะท้อนถึงแก่นสำคัญของยุคเทคโนโลยีว่า แม้เครื่องมือจะก้าวหน้าเพียงใด แต่ ทักษะพื้นฐานของมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ เพราะนั่นคือรากฐานของความเข้าใจและความสามารถที่แท้จริง

อย่างไรก็ตาม AI ไม่ใช่ “ผู้ร้าย” ที่จะมาแย่งงานคน หากแต่คือ “พระเอก” ที่พร้อมเสริมพลังให้เราทำงานได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และปลดปล่อยศักยภาพของมนุษย์ให้ไปทำงานที่มีคุณค่ามากกว่าเดิม

ประเด็นสำคัญจึงไม่ใช่ว่าเราควรใช้ AI หรือไม่   แต่คือ “เราใช้ AI อย่างไร” ต่างหาก  เพราะการใช้อย่างรู้เท่าทัน เข้าใจบทบาท และเลือกใช้ให้เหมาะกับบริบท จะทำให้ AI กลายเป็นพันธมิตรที่ทรงคุณค่าที่สุดในการทำงานยุคใหม่

AI กับบทบาทที่แท้จริง: เสริมศักยภาพ ไม่แทนที่มนุษย์

หากเราออกแบบให้ AI คิดแทนทุกอย่าง สิ่งที่เราสูญเสียไม่ใช่แค่โอกาสในการใช้ทักษะ แต่คือโอกาสในการเติบโตของมนุษย์เอง เพราะทักษะที่ไม่ถูกใช้ ย่อมเสื่อมถอยตามกาลเวลา

แต่หากเราเลือกใช้ AI อย่างมีเป้าหมาย ให้เป็นผู้ช่วย เป็นโค้ช หรือเป็นแหล่งข้อมูลที่ช่วยกระตุ้นการคิด วิเคราะห์ และการเรียนรู้—ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพ แต่คือการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และการขยายศักยภาพของมนุษย์อย่างแท้จริง

การปล่อยให้ AI ทำงานบางอย่างแทนมนุษย์จึงไม่ใช่เรื่องผิด  ตราบใดที่เวลาที่ได้คืนมานั้น ถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาทักษะที่มีคุณค่ามากกว่า

เช่นเดียวกับในอดีตที่การล่าสัตว์เคยเป็นทักษะจำเป็น แต่เมื่อโลกเปลี่ยน เราไม่จำเป็นต้องเก่งในสิ่งเดิมอีกต่อไป  มนุษย์ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง แต่ต้องรู้ว่า "ทักษะใดจำเป็นในยุคนี้" และ "ควรพัฒนาอะไรต่อไป"

สำหรับองค์กร โดยเฉพาะฝ่าย HR บทบาทสำคัญคือการชี้ให้เห็นว่า  ทักษะใดคือหัวใจของความสามารถในยุคนี้  และทักษะใดที่สามารถให้ AI เข้ามาช่วย เพื่อให้คนได้ทุ่มเทกับงานที่มีมูลค่าสูงกว่า

ไม่ว่าจะเป็นการดูแล การพัฒนา หรือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงาน  สิ่งเหล่านี้คือพื้นที่ที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ แต่สามารถช่วยสนับสนุนให้มนุษย์ทำได้ดีและลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

AI กับบทบาทของ HR: เมื่อเวลา คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในองค์กร

ในบริบทของงาน HR การใช้ AI ไม่ควรถูกจำกัดแค่เพียงการทำงานซ้ำ ๆ อย่างการคัดกรองใบสมัคร จัดการสวัสดิการ หรือตรวจสอบเอกสาร แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ HR ต้องมองให้ออกว่า

“ทักษะใดควรให้คนทำ และทักษะใดควรให้ AI ช่วย”

เพราะเป้าหมายไม่ใช่การใช้ AI เพื่อทุ่นแรงอย่างเดียว แต่คือการใช้ เวลา ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในองค์กร ให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ให้ HR มีพื้นที่ในการทำสิ่งที่สร้างคุณค่าในระยะยาว เช่น การพัฒนาคน การสร้างวัฒนธรรมองค์กร หรือการออกแบบอนาคตของงาน

ความท้าทายของ HR ในยุคนี้จึงอยู่ที่การ “สร้างสมดุล” ระหว่างการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และการรักษา รวมถึงยกระดับทักษะของมนุษย์ให้ก้าวทันอนาคต

คุณอริยพงษ์ได้สรุปไว้ได้อย่างน่าคิดว่า  AI ไม่ใช่ปีศาจ และก็ไม่ใช่พระเจ้า มันเป็นแค่เครื่องมือ

ถ้าเรา “ขี้เกียจ” มันจะทำให้เราขี้เกียจขึ้น แต่ถ้าเรา “คิดเก่ง” มันจะทำให้เราคิดเก่งขึ้นกว่าเดิม

และคำถามสำคัญที่ทุกองค์กรควรถามตัวเองคือ:  “องค์กรของเรากำลังใช้ AI แบบที่ทำให้พนักงานถดถอย หรือแบบที่ทำให้พนักงานพัฒนา?”

คำตอบของคำถามนี้ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการเปลี่ยนผ่าน ว่าจะพาองค์กรไปสู่ความล้ำหน้า หรือหลงทางกลางความเปลี่ยนแปลง

Tag:
Article
Share this post:
พรรณวัฒน์ เจริญศิริ

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
Article
7 เหตุผลที่คุณต้องมาฟัง Dave Ulrich ในงาน HR DAY – PMAT 60th Anniversary International HR Conference
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ก่อนหน้าที่ทาง PMAT จะได้มีโอกาสเชิญบุคลากรผู้ทรงคุณค่าในวงการ HR อย่างศาสตราจารย์ Dave Ulrich มาปรากฏตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกนั้น หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า HR Competency กันมาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า Employee Champion (ผมแปลเองเป็นภาษาง่าย ๆ ว่า ผู้ชนะใจพนักงาน) เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว โลกของเรายังไม่ก้าวหน้ารวดเร็วเท่ากับยุคปัจจุบัน การเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ใน internet ก็ทำได้อย่างจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันในระดับที่ “ทันกับเวลา” จึงทำให้ HR หลาย ๆ ท่านเจอกำแพงอุปสรรคของการพัฒนาตนเอง เพราะเนื่องจากยังไม่เข้าใจบริบทในภาพกว้างของโลก / ธุรกิจ จึงยึดติดกับการพัฒนางานของตนเองในระดับปฏิบัติการมากกว่า อาทิเช่น ทักษะการใช้เครื่องมือนำเสนอ หรือทักษะการใช้การจัดเก็บความรู้ แต่เรายังไม่เข้าใจถึงแก่นว่าเพราะอะไรทำไมเราถึงต้องลุกขึ้นมาปัดฝุ่นการทำงานของเรา (HR Role and Competency) ให้ขึ้นมามีบทบาททางธุรกิจมากขึ้น และคนที่สะกิดบอกทั้งโลกว่า “เฮ้! งาน HR มันคืองานในระดับธุรกิจนะ” ก็คือ อาจารย์ Dave นี่เอง
October 7, 2025
Article
“ทำไม HR ต้องมีความกล้า” คำถามที่ท้าทายจาก Dave Ulrich
ชื่อของ Dave Ulrich ได้เป็นที่ยอมรับจากนักบริหารและผู้นำจากทั่วโลกว่า เป็นหนึ่งใน Guru ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาภาวะผู้นำที่ทรงอิทธิพลทางความคิดในระดับที่ปรับโฉมการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะ เพราะสิ่งที่ Dave Ulrich นำเสนอผ่านการเขียน การเดินทางไปบรรยายทั่วโลกด้วยมุมมอง แนวคิดที่ตกผลึกมาจากงานวิจัยอย่างลงลึกต่อเนื่อง ทำให้กรอบแนวคิดแต่ละช่วงเวลาของท่านได้สร้างแรงกระเพื่อมในวงการบริหารไปทั่วโลก
October 5, 2025
Article
เหตุผลที่คุณควรมาฟัง Erin Meyer อีกครั้งในงาน PMAT 2025
ท่านผู้อ่านเคยสงสัยหรือไม่ครับว่าองค์กรระดับโลกอย่าง Netflix สร้างวัฒนธรรมที่กระตุ้นนวัตกรรมได้อย่างไร? หรือเคยเผชิญความท้าทายในการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานต่างวัฒนธรรมที่การสื่อสารเกิดความเข้าใจผิด? นี่คือโอกาสที่พวกเรากำลังจะได้รับมุมมองและแนวทางแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านวัฒนธรรมองค์กร Erin Meyer ซึ่งกำลังจะกลับมาแบ่งปันความรู้กับผู้ฟังชาวไทยอีกครั้งในงาน PMAT 60th Anniversary HR International Conference 2025 ในระหว่างวันที่ 12–13 พฤศจิกายน 2025 นี้ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี และเปิดเวทีให้นักวิชาชีพ HR, ผู้เชี่ยวชาญ L&D, ผู้นำองค์กร และผู้สนใจด้านวัฒนธรรมการทำงาน ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสุดยอดนักคิดระดับโลก
October 2, 2025