ซึ่งวงการบริหารทรัพยากรมนุษย์เองก็เช่นกันในช่วง 3-4 ปีนี้มีเทคโนโลยีต่างๆที่เข็นออกมาช่วยให้งานของเหล่า HR นั้นได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบอัตโนมัติที่ใช้ RPA (Robotic process automation) ในการทำกระบวนการซ้ำๆที่เป็นงานน่าเบื่อของชาว ยกตัวอย่าง เช่น การส่งอีเมล์เพื่อนัดสัมภาษณ์ตลอดจนจัดตารางการสัมภาษณ์ให้กับผู้สมัคร หรือจะเป็นระบบจัดการฐานข้อมูลพนักงาน จากเดิมที่เป็นเพียงกลุ่มข้อมูลจำนวนมากของพนักงานที่เก็บเอาไว้เพื่อใช้อ้างอิงในการจ่ายเงินเดือนและใช้เรียกดูเมื่อต้องการ ก็นำเรื่องของการทำ Data Analytics และการจัดการฐานข้อมูลมาปรับปรุงจนสามารถนำฐานข้อมูลไปเชื่อมโยงกับการพัฒนาทักษะพนักงาน การประเมินผลงาน และเป้าหมายของพนักงานอันทำให้สร้างการบริหารจัดการงานทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างเชื่อมโยงและสอดคล้องกับเป้าหมายการทำงานเชิงธุรกิจได้มากยิ่งขึ้นหรือแม้กระทั่งในการดูแลพนักงานที่มีการนำเทคโนโลยีออกมาใช้มากมายไม่ว่าจะเป็นด้านของการดูแล Well-Being ของพนักงานที่มีทั้งการดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจ หรือการสร้าง Employee Engagement ด้วยการมีส่วนร่วมในชีวิตของพนักงานผ่านช่องทาง Social Network ต่างๆ ที่ทำให้องค์กรมีความใกล้ชิดกับพนักงานและส่งเสริมใกล้ชิดให้มีความรู้สึกร่วมกันได้มากยิ่งขึ้นแม้จะไม่ได้ทำงานในพื้นที่เดียวกันก็ตาม
จะเห็นได้ว่า HR Tech เป็นสิ่งที่เข้าใกล้และเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการของงาน HR มากขึ้นและมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย แต่เมื่อหันกลับมาดูชาว HR ของเราเอง ว่ามีความพร้อมแค่ไหนในการบริหารจัดการและทำงานร่วมกับ HR Tech ต่างๆเหล่านี้ได้มีการสำรวจของ The Josh Bersin Company ที่ทำสำรวจเกี่ยวกับระดับความสามารถของชาวHR จาก HR ทั่วโลกจำนวน 5,000 คนว่ามีความเชี่ยวชาญในงานแขนงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ HR มากน้อยเพียงใดโดยกกลุ่มสีเขียวคือมีความเชี่ยวชาญมาก สามารถนำและถ่ายทอดให้คนอื่นได้กลุ่มสีเหลืองคือมีประสบการณ์ในด้านนั้นๆอยู่บ้าง พอจะสามารถจัดการได้และสีแดงคือไม่ถนัด และไม่เก่งเอาซะเลย พบว่าในเรื่องหนึ่งที่อยู่อันดับรั้งท้ายก็คือความสามารถในการดูแล HR Tech และ Service Delivery ที่สนับสนุนพนักงานในแง่มุมด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์กว่า 78% นั้นระบุว่าตนเองมีความเชี่ยวชาญในระดับผู้เริ่มใช้งาน หรือ ใช้งานได้เพียงเบื้องต้น (Beginner/Novice) เพียงเท่านั้นและมีผู้ที่ระบุว่าตนเองอยู่ในระดับเชี่ยวชาญปานกลาง (Intermediate) อยู่ที่ 16% และมีผู้ที่บอกว่าตนเองนั้นอยู่ในระดับเชี่ยวชาญเพียงแค่ 6% เท่านั้นซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก เพราะเท่ากับว่า ถ้าเราถาม HR 10 คน จะมีผู้ที่ทำงานอย่างคุ้นเคยและเชี่ยวชาญกับ HR Tech เพียงแค่ 2 คน เท่านั้น ส่วนอีก 8 คนเป็นเพียงผู้ที่พอจะใช้งานได้ในระดับเริ่มต้นเพียงเท่านั้น
และเมื่อผลสำรวจได้เจาะลึกลงไปว่าหัวข้อในด้านที่เกี่ยวกับ HR Tech โดยที่ชาว HR นั้นมีความเชี่ยวชาญและไม่เชี่ยวชาญ โดยพบว่า 5 เรื่องหลักๆ คือ
1) การคัดเลือกระบบ HRMS และโปรแกรมจัดทำเงินเดือน รวมถึงการปรับใช้ระบบ
2) การออกแบบ HR Portal สำหรับพนักงาน
3) การออกแบบบริการให้พนักงานที่เน้นพนักงานเป็นศูนย์กลาง
4) การจัดการความรู้ที่เกี่ยวกับ HR Tech
5) การทำระบบ RPA และ Chatbot เข้ามาใช้ในการให้บริการทาง HR
พบว่าทั้ง 5 ข้อนั้น ชาว HR รู้สึกว่าตนเองเป็นระดับเริ่มต้นที่ 69%,75%, 77%, 78% และ 90%ตามลำดับในขณะที่ผู้ที่รู้สึกว่าตนเองเชี่ยวชาญนั้นมีเพียง 10%, 7%, 6%, 5% และ 3% เพียงเท่านั้นซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมากทีเดียวสำหรับยุคนี้ ยุคที่มีแต่ HR Tech เปิดให้บริการให้กับชาว HR เต็มไปหมด ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่ชาว HR เองก็จำเป็นที่จะต้อง Reskill และ Upskill ของตนเองเพื่อที่จะยกระดับงานทางด้านบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้ตอบสนองกับความเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบันได้ดีขึ้นอีกทั้งยังสามารถที่จะพิจารณา HR Tech ที่เหมาะสมกับกระบวนการทำงานและองค์กรของแต่ละท่านได้จริงๆ ดังนั้นในบทความนี้ได้รวบรวมทักษะ 5 ทักษะที่จะช่วยสนับสนุนให้ชาว HR เพื่อบริหารจัดการ HR Tech ให้ปังสมความตั้งใจ ดังนี้
1) ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจ (Data Analytics & Decision Making) – ทักษะนี้จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชาว HR ยุคปัจจุบันที่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจว่าข้อมูลแต่ละอย่างสามารถนำไปต่อยอดอะไรได้บ้างจะออกแบบการจัดเก็บข้อมูลอย่างไรจึงจะใช้งานได้ดีซึ่งหากแยกย่อยออกมาทักษะนี้ก็จะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการฐานข้อมูล (DatabaseManagement) การออกแบบฐานข้อมูล(Database Design) การคิดวิเคราะห์ (Analytical Skill) การวิเคราะห์หาความต้องการ (Need Analysis) การวิเคราะห์พื้นฐานทางสถิติ (Statistical Analysis) ซึ่งทักษะเหล่านี้จะทำให้ชาวHR ทำงานได้ดีกับข้อมูลรวมไปถึงวางแผนและคิดวิเคราะห์กระบวนการทำงานสร้างกระบวนการทำงานใหม่ที่สนับสนุนการให้บริการพนักงานได้เป็นอย่างดี
2) ทักษะด้านการตลาด และ Social media (Marketing & Social media) – ทักษะนี้เป็นทักษะที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆเพราะจำเป็นที่จะต้องใช้ตั้งแต่ก่อนพนักงานจะเข้ามาในองค์กรเลยทีเดียว เพราะ HRยุคปัจจุบัน ก็ต้องสร้าง Brandให้เกิดขึ้นเพื่อดึงดูดคนเก่งๆให้เข้ามาร่วมกับองค์กรเราจะเห็นได้ว่าองค์กรใหญ่ๆแม้กระทั่งในไทยเองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่นคลิปเรื่องการบริหารคนต่างวัยของ PTTGC ที่ทำให้เห็นภาพว่าองค์กรมีความเปิดกว้างในการทำงานกับคนต่างวัยหรือ การทำAds สนุกๆชวนน้องฝึกงานของ LineMan-Wongnai เป็นต้นอีกทั้งเมื่อพนักงานเข้ามาในองค์กร ก็ยังต้องมีการใช้ทักษะการตลาดและ Socialmedia เพื่อสื่อสารจูงใจ และสร้างความประทับใจให้แก่พนักงานอีกด้วย
3) ทักษะการบริหารโครงการ (ProjectManagement) - การที่จะนำ HR Tech เข้ามาในองค์กรให้ประสบความสำเร็จนั้นจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเสมือนเป็นโครงการโครงการหนึ่ง ที่ต้องอาศัยการวางแผน การแก้ไขปัญหาและการติดตามการดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะสำเร็จทั้งในมุมของ ต้นทุน (Cost)– คุณภาพ (Quality) - กรอบเวลา (Time) ฉะนั้นทักษะในการบริหารโครงการจึงเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับชาว HR ที่จะดำเนินการร่วมกับHR Tech ประเภทต่างๆให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลพนักงานของเราได้
4) ทักษะการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) - การมี HR Tech มากมายก็ไม่ช่วยอะไร หาก HR Tech เหล่านั้นไม่ได้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า หรือพนักงานของเรานั่นเอง HR จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีวิธีคิดเชิงออกแบบเพื่อที่จะเข้าใจในความต้องการและ pain point ของพนักงานของตนเองตลอดจนสามารถที่จะออกแบบกระบวนการ หรือผลิตภัณฑ์ในเชิง HR ที่ตอบสนองต่อความต้องการของพนักงานได้จริงๆสามารถช่วยให้พนักงานมีชีวิตที่ดีขึ้นได้จริงๆ
5) ทักษะการคิดอย่าง HR Technology (HRTechnology Mindset) - ทักษะสุดท้ายเป็นสิ่งที่สำคัญมากเป็นพื้นฐานของ HR ที่จะต้องจัดการกับ HR Tech ไม่ว่าจะเรื่องใดหรือประเภทใดคือมุมมองที่จะหาทางพัฒนางานของตนเองด้วย Technology อย่างสม่ำเสมอซึ่งในข้อนี้ประกอบไปด้วยอีกสองเรื่อง คือ
- การคิดพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง (ProactiveCuriosity) เป็นการที่ HR จะต้องหาวิธีการทำงานที่ดีขึ้นง่ายขึ้น ไม่ได้คิดแต่เพียงทำงานตาม Work Instruction หรือ Procedure แต่เพียงอย่างเดียว หากแต่พยายามมองไปข้างหน้าเพื่อหาหนทางในการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม
- การให้ความสำคัญต่อระบบอัตโนมัติ (AnAutomate-First Focus) คือการที่ HRจะไม่พยายามเพิ่มขั้นตอนซ้ำซ้อนหรือต้องทำเอง (Manual) ถ้าไม่จำเป็นจะต้องเพิ่มขั้นตอนก็ต้องลดการมีขั้นตอนต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และถึงแม้ว่าตัว HR เองอาจจะไม่สามารถทำได้เองก็ต้องพยายามที่จะหาวิธีการให้เป็นลักษณะของระบบอัตโนมัติได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
และนี่คือ 5 ทักษะที่จะช่วยให้ชาว HR สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของ HR Tech ได้เป็นอย่างดีและยังช่วยสนับสนุนให้ชาว HR เลือกสรรและจัดการใช้งานระบบ HR Tech ที่ไม่ว่าจะล้ำยุคแค่ไหนก็ตามให้ตอบสนองความต้องการของ HR เองพนักงาน และองค์กรได้ ปังสมกับที่ทุ่มเทงบประมาณ และความพยายามในการนำ HR Tech มาใช้ครับ
Reference
https://www.linkedin.com/pulse/hr-technology-capabilities-beyond-technical-skills-nehal-nangia/
https://www.aihr.com/blog/technology-skills-every-hr-professional-needs/
https://www.techtarget.com/searchhrsoftware/tip/Top-9-tech-skills-HR-professionals-need-for-success
https://www.edarabia.com/technical-skills-hr-managers-look/