>
เลือกเอา....อยากได้ผู้นำแบบไหน
June 14, 2023

เลือกเอา....อยากได้ผู้นำแบบไหน

เมื่อกล่าวถึงผู้นำ อยากสอบถามพนักงานทุกคนว่าเราอยากได้ผู้นำประเภทไหน ถ้าหากเป็นผู้นำประเภทที่ทำการตัดสินใจโดยไม่ให้พนักงานมีส่วนร่วมหรือแสวงหาข้อมูลจากพนักงานเลยและพนักงานมีอิสระในการทำงานอย่างจำกัด เราอยากจะทำงานร่วมกับหัวหน้างานหรือผู้จัดการแบบนี้หรือไม่ ถ้าให้เดาก็คงจะตอบว่าไม่อยากทำงานด้วย ตรงกันข้ามถ้าหากมีผู้นำที่มีลักษณะแบ่งปันอำนาจกับผู้ใต้บังคับบัญชาโดยให้อำนาจในการตัดสินใจ และผู้นำก็ยังแสดงความมั่นใจในความสามารถของพนักงานในการปฏิบัติงานด้วยตนเอง และอนุญาตให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ผู้นำแบบนี้จะดีกว่าไหมในการทำงานร่วมกับเรา

ผู้นำในลักษณะดังกล่าวเป็นผู้นำแบบมอบอำนาจ (empowering leadership) เป็นรูปแบบความเป็นผู้นำที่เน้นความสำคัญของการให้อำนาจแก่พนักงานในการตัดสินใจและให้พนักงานเป็นเจ้าของงานของพวกเขา โดยผู้นำจะมีกระบวนการของการแบ่งปันอำนาจและจัดสรรความเป็นอิสระและความรับผิดชอบให้แก่ผู้ตามหรือทีมงานโดยผ่านพฤติกรรมผู้นำที่เฉพาะเจาะจงสำหรับพนักงานเพื่อเพิ่มแรงจูงใจภายในและบรรลุผลสำเร็จในการทำงาน ผู้นำจะต้องให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในตัวพนักงานของพวกเขา และผู้นำจะต้องจัดหาทรัพยากร การสนับสนุน และโอกาสให้แก่พนักงานเพื่อทำให้พนักงานประสบความสำเร็จในการทำงาน ดังนั้นกล่าวได้ว่าผู้นำแบบมอบอำนาจจะมีลักษณะพฤติกรรมสำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้

ความไว้วางใจ: ผู้นำแบบมอบอำนาจให้ความไว้วางใจในพนักงานของพวกเขาและเชื่อในความสามารถของพวกเขา

ความเป็นอิสระ: ผู้นำแบบมอบอำนาจช่วยให้พนักงานมีอิสระในการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเอง

การสนับสนุน: ผู้นำแบบมอบอำนาจมอบทรัพยากรและการสนับสนุนที่จำเป็นแก่พนักงานเพื่อให้ประสบความสำเร็จ

โอกาส: ผู้นำแบบมอบอำนาจช่วยให้พนักงานมีโอกาสพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ

การยกย่องชมเชย: ผู้นำแบบมอบอำนาจให้การยอมรับและให้รางวัลแก่พนักงานของตนสำหรับผลงานของพวกเขา

การทำงานร่วมกัน: ผู้นำแบบมอบอำนาจส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการทำงานเป็นทีม

มีเหตุผลหลายประการที่พนักงานต้องการผู้นำที่มอบหมายอำนาจ เพื่อที่พนักงานจะได้มีความเป็นอิสะในการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งสามารถเพิ่มความพึงพอใจและแรงจูงใจในการทำงานให้กับพนักงานได้ นอกจากนั้นช่วยให้พนักงานมีโอกาสพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขารู้สึกเติมเต็มและมีส่วนร่วมกับงานมากขึ้น การที่ผู้นำได้มอบอำนาจให้แก่พนักงานย่อมแสดงถึงความไว้วางใจในพนักงานของตนเองและเชื่อมั่นในความสามารถของพวกเขา ซึ่งจะนำไปสู่ความภักดี ความมุ่งมั่น และความพึงพอใจในงานที่มากขึ้น รวมไปถึงการส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการทำงานเป็นทีม ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นบวกมากขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยให้พนักงานเข้าใจว่างานของพวกเขาเหมาะสมกับภาพรวมและสอดคล้องกับพันธกิจขององค์กรอย่างไร ซึ่งสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมได้ และเมื่อพนักงานสามารถทำผลงานออกมาได้อย่างดี ผู้นำควรมีการให้รางวัลเพื่อช่วยในการเพิ่มแรงจูงใจและความพึงพอใจในงานได้

การที่องค์กรมีผู้นำที่มีลักษณะมอบอำนาจให้แก่พนักงานจะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านพนักงานและด้านองค์กร ในด้านพนักงานกล่าวคือ ทำให้การมีส่วนร่วมของพนักงานเพิ่มขึ้น โดยผู้นำแบบมอบอำนาจจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของระดับความผูกพันของพนักงานและความพึงพอใจในงาน เนื่องมาจากพนักงานรู้สึกมีค่าและได้รับความไว้วางใจในตัวผู้นำ และจะทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นและมีการแก้ไขปัญหาที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะพนักงานมีอำนาจในการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเอง เกิดการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งนำไปสู่วิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีแนวโน้มที่พนักงานจะเกิดความคิดใหม่ ๆ และกล้าเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งสามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมในองค์กรได้

ส่วนในด้านองค์กร กล่าวคืออัตราการรักษาพนักงานจะสูงขึ้น เนื่องจากพนักงานมีแนวโน้มที่จะอยู่กับองค์กรที่เห็นคุณค่าและไว้วางใจพวกเขา รวมถึงวัฒนธรรมการทำงานที่ดีขึ้น เพราะผู้นำแบบมอบอำนาจจะสร้างวัฒนธรรมการทำงานเชิงบวก ซึ่งพนักงานรู้สึกได้รับการเคารพและได้รับการสนับสนุน นำไปสู่การสร้างขวัญกำลังใจและการทำงานเป็นทีมที่ดีขึ้น และสุดท้ายคือความพึงพอใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น เพราะเมื่อพนักงานมีส่วนร่วมและมีแรงจูงใจ พวกเขามีแนวโน้มที่จะให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่สูงขึ้นและส่งผลต่อผลประกอบการขององค์กรในที่สุด

องค์กรในโลกปัจจุบันมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การพัฒนารูปแบบภาวะผู้นำที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นภาวะผู้นำแบบมอบอำนาจเป็นลักษณะของภาวะผู้นำรูปแบบหนึ่งที่น่าจะเหมาะสมเนื่องด้วยเหตุผลหลายประการต่อไปนี้

1. กำลังแรงงานที่เปลี่ยนแปลง: พนักงานในปัจจุบันมีการศึกษาสูง มีความหลากหลาย และเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โดยมีความต้องการอย่างมากสำหรับโอกาสการเติบโตและการพัฒนา การเพิ่มขีดความสามารถของความเป็นผู้นำนั้นสอดคล้องกับแนวโน้มของแรงงานที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เนื่องจากเป็นการให้โอกาสพนักงานในการเติบโตส่วนบุคคลและในสายอาชีพ

2. องค์กรที่แบนราบ: องค์กรจะแบนราบขึ้น โดยมีลำดับชั้นน้อยลงและมีทีมงานข้ามสายงานมากขึ้น การเสริมสร้างความเป็นผู้นำนั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับโครงสร้างประเภทนี้ เนื่องจากส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการทำงานเป็นทีม

3. ความต้องการนวัตกรรม: ในโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องมีความคล่องตัวและปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ การเสริมสร้างความเป็นผู้นำสามารถส่งเสริมสภาพแวดล้อมแห่งนวัตกรรม เนื่องจากพนักงานรู้สึกว่ามีอำนาจที่จะเสี่ยงและคิดไอเดียใหม่ๆ

4. การทำงานจากระยะไกล: เนื่องจากการทำงานจากระยะไกลกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น การเสริมสร้างศักยภาพความเป็นผู้นำจะมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากช่วยให้พนักงานสามารถเป็นเจ้าของงานของตนและตัดสินใจได้อย่างอิสระ

5. ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน: พนักงานในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม การเสริมสร้างความเป็นผู้นำสามารถช่วยให้พนักงานรู้สึกควบคุมงานได้มากขึ้นและเครียดน้อยลง ซึ่งสามารถปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขาได้

กล่าวโดยสรุป ผู้นำแบบมอบอำนาจ สามารถส่งผลดีต่อการมีส่วนร่วมของพนักงาน ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน การรักษาพนักงานให้คงอยู่ในองค์กร การเสริมสร้างนวัตกรรมในการทำงาน และความพึงพอใจของลูกค้า ผู้นำแบบมอบอำนาจสามารถช่วยให้พนักงานรู้สึกถึงจุดมุ่งหมาย การเติบโต ความไว้วางใจ และความเป็นอิสระ ซึ่งจะนำไปสู่ความพึงพอใจและแรงจูงใจในการทำงานที่เพิ่มขึ้น  ดังนั้นผู้นำแบบมอบอำนาจจะเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับโลกปัจจุบัน เนื่องจากแนวโน้มของแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป ความต้องการนวัตกรรม การเพิ่มขึ้นของการทำงานทางไกล และการให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
Tag:
No items found.
Share this post:
ผศ.รัชฎาทิพย์ อุปถัมภ์ประชา

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024