>
ถอดรหัส “พระมหาชนก” ตอนที่ 2
January 25, 2021

ถอดรหัส “พระมหาชนก” ตอนที่ 2

ถอดรหัส “พระมหาชนก” จากมุมมองด้านการพัฒนามนุษย์และองค์การอัจฉริยภาพอันสร้างสรรค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

คติธรรมการพัฒนามนุษย์ตามแนวทาง “การฟื้นฟูต้นมะม่วง”

ภาวะผู้นำที่ดีย่อมแตกต่างจากปุถุชนธรรมดาทั่วไปทั้งหลาย เมื่อเห็นภัยพาลคืบคลานเข้ามาหรือเห็นปัญหาเกิดขึ้น ปุถุชนมักจะตื่นตระหนก ร่ำร้องโวยวาย กล่าวโทษใส่ร้ายกัน คนเหล่านี้มัก “พลิกวิกฤติให้กลายเป็นหายนะ” ในทางตรงข้ามผู้ที่มีภาวะผู้นำคือผู้ที่ตั้งอยู่ในสติสัมปชัญญะ ใช้ปัญญา เรียกระดมผู้รู้มาช่วยกันขบคิดเพื่อแสวงหาทางออกและฟื้นฟูกู้ปัญหาเหล่านั้น พระมหาชนกคือแบบอย่างแห่งภาวะผู้นำ เมื่อเห็นปัญหา แม้ตนเองจะมีความทุกข์ใจหนักหนากับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ตั้งสติเรียกระดมปราชณ์ราชบัณฑิต แล้วเตือนสติว่าแทนที่จะมานั่งพร่ำบ่นเสียอกเสียใจ แต่ควรจะมาช่วยกันคิดและดำเนินการ “พลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาส” มากกว่า ในตอนนี้ พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ปรากฏให้เห็นเด่นชัดอีกครั้งเมื่อทรงนำเสนอ “แนวทางการฟื้นฟู้ต้นมะม่วง” อย่างเป็นระบบถูกต้องตามหลักวิชาถึง 9 วิธีการ ดังที่ปรากฏในตอนที่ 35

(ตอนที่ 35) อุทิจจพราหมณ์มหาศาลรีบมาเฝ้าพระราชา พร้อมด้วยลูกศิษย์สองคน คือ จารุเตโชพราหมณ์และคเชนทรสิงหบัณฑิต สองคนนี้ คนแรกชำนาญการปลูก คนที่สองชำนาญการถอน ทันใดที่มาถึง คเชนทรสิงหบัณฑิตก็ทรุดลงแทบพระบาทของพระราชาแล้วทูลว่า “ข้าพระองค์ผิดไปเอง เมื่อเหล่าอมาตย์ขอให้ข้าพระองค์ช่วยเก็บมะม่วงถวายพระอุปราช ข้าพระบาทจึงนำเอา “ยันตกลเก็บเกี่ยว” มาใช้ มิได้คิดว่าจะทำให้ต้นมะม่วงถอนรากโค่นลงมา พระพุทธเจ้าข้าขอรับ.” พระราชตรัสว่า: “อย่าโทมนัสไปเลย อาจารย์ผู้ดำริการ ต้นมะม่วงโค่นไปแล้ว ณ บัดนี้ปัญหาคือ ฟื้นฟูต้นมะม่วงได้อย่างไร เรามีวิธีเก้าอย่างที่อาจใช้ได้ หนึ่ง เพาะเม็ดมะม่วง สอง ถนอมรากที่ยังมีอยู่ให้งอกใหม่ สาม ปักชำกิ่งที่เหมาะแก่การปักชำ สี่ เอากิ่งดีมาเสียบยอดกื่งของต้นที่ไม่มีผลให้มีผล ห้า เอาตามาต่อกิ่งของอีกต้น หก เอากิ่งมาทาบกิ่ง เจ็ด ตอนกิ่งให้ออกราก แปด รมควันต้นที่ไม่มีผลให้ออกผล เก้า ทำ ‘ชีวาณูสงเคราะห์’ ท่านพราหมณ์มหาศาล จงให้พราหมณ์อันเตวาสิกไปพิจารณา” อุทิจจพราหมณ์รับสนองพระราชโองการ ว่า: ข้าพระองค์ผู้ทรงภูมิปัญญา จะให้คเชนทรสิงหบัณฑิตนำเครื่อง ‘ยันตกล’ ไปยกต้นมะม่วงให้ตั้งตรงทันที และจะให้จารุเตโชพราหมณ์เก็บเม็ดและกิ่ง ไปดำเนินการตามพระราชดำริ” พระราชโปรดให้สองคนนั้นรีบไป แต่ขอให้พราหมณ์มหาศาลคอยรับพระราชดำริต่อไป

มีประเด็นที่ผู้เขียนสนใจและเห็นว่าเป็นประเด็นที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในตอนที่ 35 นี้ก็คือ

วิธี 9 อย่างในการฟื้นฟูต้นมะม่วง ผู้เขียนได้เคยสอบถามความคิดเห็นจากนักวิชาการด้านการเกษตรบางท่าน พบว่าแนวทางการฟื้นฟูต้นมะม่วงทั้ง 9 วิธีการนั้น ถือเป็นภูมิปัญญาที่สำคัญและล้ำลึกอย่างยิ่งในวิชาการทางเกษตรศาสตร์ สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประพันธ์ “พระมหาชนก” ได้ศึกษาค้นคว้าศาสตร์ทางด้านนี้มาอย่างลึกซึ้ง อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนบทความนี้มิได้เป็นนักวิชาการที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเกษตร แต่ผู้เขียน – ในฐานะของนักวิชาการด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ – ใคร่ขอตั้งข้อสังเกตในที่นี้ว่านี่คือ “รหัสนัยที่ลึกซึ้ง” ยิ่งนักและน่าจะเป็นรหัสนัยที่นักวิชาการด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การพึงขบคิดตีประเด็นให้แตกว่าจะถอดรหัสแนวทางการ “ฟื้นฟูต้นมะม่วง” ทั้ง 9 วิธีการให้ออกมาเป็นแนวทางที่เหมาะสมกับการ “ฟื้นฟูทรัพยากรมนุษย์ในองค์การ” ได้อย่างไร?

เนื่องด้วยภูมิปัญญาอันมีขอบเขตจำกัดของผู้เขียนเอง ในที่นี้ผู้เขียนจึงใคร่ขอนำเสนอแนวทางการถอดรหัสการฟื้นฟูทรัพยากรมนุษย์ตามแนวทางการฟื้นฟูต้นมะม่วงทั้ง 9 วิธี โดยเป็นการนำเสนอในลักษณะของการยกร่างเป็น “ประเด็นตั้งต้น” (Proposition) เพื่อที่จะเชื้อชวนให้บุคคลทั่วไป รวมทั้งปราชณ์ ผู้รู้ นักวิชาการและผู้ปฏิบัติงานที่เชี่ยวชาญและที่สนใจในด้านการบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ จะได้เข้ามาร่วมกันขบคิดถกแถลงแสวงหาทางออกร่วมกันว่า “แนวทางการฟื้นฟูทรัพยากรมนุษย์และองค์การ” แต่ละข้อของ “การฟื้นฟูต้นมะม่วง” ทั้ง 9 ข้อ แท้ที่จริงแล้วคืออะไร มีนัยยะความหมายอะไร และมีเครื่องมือที่เหมาะสมด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การอะไรที่จะใช้เพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรมนุษย์และองค์การได้อย่างไรบ้าง? ทั้งนี้ ใคร่ขอให้ผู้อ่านจินตนาการถึงบริบทองค์การที่กำลังเผชิญกับปัญหาคุณภาพของบุคลากรตกต่ำ แม้บางองค์การจะเป็นองค์กรที่มีศักยภาพดี แต่บุคลากรบางกลุ่มกลับไร้ผลงาน คนดีคนเก่งถูกทำลายเสียขวัญกำลังใจจนหมดพลังในการทำงาน คำถามคือ เราจะฟื้นฟูคนและองค์การเหล่านี้ – โดยใช้แนวทางการฟื้นฟูต้นมะม่วง 9 ข้อ – อย่างไร? ในการนี้ ผู้เขียนขอนำเสนอแนวทางการตีความตามหลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การเป็นการตั้งต้น ดังนี้

1. เพาะเม็ดมะม่วง (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า Culturing the seeds) ผู้เขียนใคร่ขอถอดรหัสนัยนี้ในเชิงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ว่าการ “เพาะเม็ดมะม่วง” น่าจะหมายถึง “การบ่มเพาะบุคลากรรุ่นใหม่” หรือ “การพัฒนาบุคลากรพันธุ์ใหม่” ขึ้นมา

2. ถนอมรากที่ยังมีอยู่ให้งอกใหม่ (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า Nursing the roots so they grow again) ผู้เขียนใคร่ขอถอดรหัสนัยนี้ในเชิงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การว่า “ราก” หมายถึง องค์ความรู้ ภูมิปัญญา ขีดความสามารถดั้งเดิม (Competence) ที่องค์กรมีอยู่ เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจจะขาดการเอาใจใส่ดูแลและพัฒนาสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาเท่านั้น (คล้ายๆกับ การที่สังคมไทยเคยมีภูมิปัญญาดั้งเดิม แต่ขาดการเหลียวแล เพราะมัวแต่หลงไหลได้ปลื้มไปกับภูมิปัญญาตะวันตก จนในที่สุดภูมิปัญญาดั้งเดิมที่เป็น “รากเหง้า” ที่แท้จริงถูกละเลย หรือถูกทำลายสูญหายไปอย่างน่าเสียดาย)

3. ปักชำกิ่งที่เหมาะแก่การปักชำ. (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า Culturing (cutting) the branches) การปักชำกิ่งคือการตัด/นำกิ่งที่เหมาะสมไปปักลงในวัสดุชำเพื่อให้เกิดรากขึ้นมา เป็นวิธีการที่ง่าย ได้ผลเร็วและต้นทุนต่ำ จุดสำคัญจุดหนึ่งในที่นี้คือ การได้มาซึ่ง “กิ่งที่เหมาะ” แก่การปักชำ หากจะถอดรหัสนัยนี้ในเชิงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ ก็อาจตีความได้ว่า “กิ่งที่เหมาะ” ก็คือ กลุ่มคนที่เป็นกลุ่ม “คนดีคนเก่ง”

4. เอากิ่งดีมาเสียบยอดกิ่งของต้นที่ไม่มีผลให้มีผล. (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า Grafting on the other tree.) การเสียบยอดคือการนำเอากิ่งของยอดพันธุ์ที่ดีไปเสียบทาบกับยอดของต้นที่ไม่มีผล โดยมีเป้าประสงค์หลักเพื่อให้ได้ผลผลิตจากต้นเดิมที่เร็วกว่าการเริ่มปลูกใหม่ หากจะถอดรหัสนัยนี้ในเชิงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ ก็อาจตีความได้ว่า “กิ่งดี” คือกลุ่มคนที่เป็นกลุ่ม “คนดีคนเก่ง” ซึ่งหมายถึงกลุ่ม “ดาวดวงเด่น” และ “กลุ่มม้างาน” อันเป็นกลุ่มที่เหมาะแก่การขยายพันธุ์

5. เอาตามาต่อกิ่งของอีกต้น. (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า Bud-grafting on the other tree.) การต่อกิ่งเป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชอีกแบบหนึ่ง โดยเอาตาของต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีคุณภาพดีไปติดที่ต้นหรือกิ่งของอีกต้นหนึ่งซึ่งเป็นชนิดเดียวกันเพื่อหวังให้เกิดต้นตอหรือกิ่งที่มีคุณภาพดีในต้นไม้นั้น หากจะถอดรหัสนัยนี้ในเชิงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ ก็อาจตีความได้ว่า “ตา” หมายถึงแง่คิด มุมมอง คุณลักษณะที่ดีของบุคลากรกลุ่มที่มีคุณภาพ

6. เอากิ่งมาทาบกิ่ง. (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า splicing (approach grafting) the branches.) การทาบกิ่ง เป็นวิธีการขยายพันธุ์ที่ให้ได้ต้นพันธุ์ดีซึ่งมีลักษณะทางสายพันธุ์เหมือนต้นแม่วิธีหนึ่ง โดยกิ่งพันธุ์ดีจะทำหน้าที่เป็นลำต้นของต้นพืชใหม่ ส่วนต้นตอที่นำมาทาบติดกับกิ่งของต้นพันธุ์ดีจะทำหน้าที่เป็นระบบราก เพื่อหาอาหารให้กับต้นพันธุ์ดี หากจะถอดรหัสนัยนี้ในเชิงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ ผู้เขียนมีความเห็นว่าสามารถตีความได้หลายประการ

> การระดมกลุ่มคนดีคนเก่งให้มาทำงานร่วมกันในลักษณะ Talent Project Team หรือ Talent Taskforce

> การพัฒนาบุคลากรกลุ่มคนดีคนเก่งที่มีคุณภาพให้เป็น “วิทยากรต้นแบบ”

> การเอาความรู้ เทคนิค ประสบการณ์ของบุคลากรมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบ่งปันร่วมกัน (Knowledge sharing)

7. ตอนกิ่งให้ออกราก. (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า layering the branches.) การตอนกิ่งคือการทำให้กิ่งหรือต้นพืชเกิดรากขณะที่ติดอยู่กับต้นแม่ ทำให้ได้ต้นพืชใหม่ ที่มีลักษณะทางสายพันธุ์เหมือนกับต้นแม่ทุกประการ เมื่อถอดรหัสนัยนี้ในเชิงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ ผู้เขียนมีความเห็นว่าสามารถตีความได้ว่า การ “ตอนกิ่งให้ออกราก” คือการที่องค์กรเสริมสร้าง “กลุ่มคนดีคนเก่ง” ที่เคย “ถูกบั่นทอนจนสูญเสียขวัญ เสียกำลังใจและความมั่นใจ” ให้กลับมามีพลัง มีความเข้มแข็ง มีความมั่นใจที่จะกลับมาสร้างสรรค์ผลงานที่ดีได้อีกครั้งหนึ่ง

8. รมควันต้นที่ไม่มีผลให้ออกผล. (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า Smoking the fruitless tree, so that it bears fruit..) การรมควันเป็นภูมิปัญญาโบราณ ที่กระทำในช่วงที่ใบมะม่วงสะสมอาหารไว้เต็มที่แล้ว การรมควันจะเร่งให้ใบแก่ของมะม่วงหลุดร่วงก่อนเวลาปรกติ ก่อนที่ใบจะร่วง อาหารที่สะสมที่ใบจะเคลื่อนย้ายกลับไปสะสมที่ปลายยอด ทำให้มีสภาพเหมาะสมแก่การผลิตาดอก นอกจากนี้ยังพบว่า ในควันไฟมีแก๊สเอทิลีน (ethylene) ซึ่งเป็นสารตัวการสำคัญที่กระตุ้นให้มะม่วงออกดอกอีกด้วย ผู้เขียนใคร่ขอถอดรหัสนัยนี้ในเชิงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การว่าหมายถึง “การบำบัดฟื้นฟูคนที่มีแววมีศักยภาพได้ฉายแววหรือเปล่งศักยภาพของตนขึ้นมาอีกครั้ง”

9. ทำ ‘ชีวาณูสงเคราะห์’ (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า Culturing the cells in a container.) ชีวาณูสงเคราะห์ บ้างก็ว่าหมายถึงการนำเอาเซลล์ของเนื้อเยื่อออกมาเพาะใหม่ บ้างก็ว่าคือการปลูกเนื้อเยื่อ บ้างก็หมายถึงการเพาะพันธุ์ในหลอดแก้ว สรุปโดยรวม น่าจะหมายถึงการการเพาะเซลล์ที่จะได้มาซึ่งพันธุ์ไม้ใหม่ที่มีความแกร่งกล้าและให้ดอกออกผลได้ดีกว่าเดิม ผู้เขียนใคร่ขอถอดรหัสนัยนี้ในเชิงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การว่าหมายถึงการที่องค์กรริเริ่มโครงการบ่มเพาะสร้างสรรค์ค่านิยม วัฒนธรรมองค์การใหม่ อันเป็นค่านิยมวัฒนธรรมที่เหมาะกับยุคสมัย และจะช่วยสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์การอย่างยั่งยืนในอนาคต

หลักการฟื้นฟูต้นมะม่วงด้วย 9 วิธีการ สะท้อนให้เห็นถึงหลักคิดแบบ “มนุษย์นิยม” (Humanism) และ “มนุษยธรรมนิยม” (Humanitarianism) ที่ให้ความเอาใจใส่ดูแลบุคลากรครอบคลุมทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่มีผลงานดีหรือยังไม่มีผลงานชัดเจนก็ตาม ด้วยหลักความคิดพื้นฐานในแง่บวกที่เชื่อว่าคงไม่มีมนุษย์คนใดที่อยากเป็นคนไม่เก่งไม่ดี มนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากเป็นคนดีคนเก่ง และมนุษย์ทุกคนย่อมสามารถพัฒนาฟื้นฟูได้ องค์กรที่ดีจึงควรมีความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการเปิดโอกาสและพัฒนาบุคลากรเพื่อดึงเอาความสามารถและความดีงามของบุคลากรออกมา

Tag:
No items found.
Share this post:
ผศ.ดร.สมบัติ กุสุมาวลี

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024