พัฒนาบุคลากรและสร้างประสบการณ์เชิงบวกในที่ทำงานอย่างต่อเนื่องด้วย Happily.ai

ดิจิทัลออฟฟิส

คือออฟฟิศโมเดลที่ตอบโจทย์การทำงานในปัจจุบัน ภายใต้แนวคิดที่ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ธุรกิจก็จะยังสามารถดำเนินต่อไปได้ไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะการทำงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ รีโมตเวิร์ก ออนไลน์มีตติ้ง หรือการทำงานจากบ้านหรือ work from home เพื่อให้ธุรกิจไม่หยุดชะงัก แต่จากเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าซึ่งทำให้การปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในที่ทำงานลดน้อยลง สิ่งที่เราควรจะต้องให้ความสำคัญมากขึ้นคือเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างคนในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ทีมกับหัวหน้า หรือแม้แต่พนักงานกับองค์กร หากเราไม่สามารถมองเห็นได้ว่า ตอนนี้ องค์กรของเรากำลังมีอุณหภูมิเป็นอย่างไร ในองค์กรรู้สึกนึกคิดอย่างไร ใครที่กำลังเจอกับปัญหา ทีมไหนกำลังเจอความท้าทาย  เราอาจจะสูญเสียความผูกพันที่พนักงานจะมีต่อองค์กรไปได้ในช่วงเวลานั้นๆ รวมทั้งข้อมูลสำคัญอื่นๆ เช่น ใครที่เป็นดาวเด่นขององค์กร ไปจนถึงการสร้างอิมแพ็กของพนักงานในองค์กร ก็เป็นข้อมูลสำคัญเช่นกัน ซึ่งข้อมูลที่สำคัญในการดูแลองค์กรเหล่านี้ทาง Happily.ai ดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับการดูแลองค์กรที่จะทำให้ประสบการณ์ในชีวิตการทำงานสนุกขึ้น และองค์กรก็ยังได้ข้อมูลชั้นดีเพื่อนำไปปรับใช้งานให้เหมาะสมกับองค์กร

ตัวอย่างชุดข้อมูลและฟีเจอร์จาก Happily.ai

Star Performer & People Risk

องค์กรจะมีข้อมูลของพนักงานที่มีความโดดเด่นทั้งเรื่องประสิทธิภาพของงานที่ทำและการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ซึ่งข้อมูลนี้ จะถูกอัปเดตทุกๆ สัปดาห์ ทำให้ HR และผู้บริหารมองเห็นอยู่เสมอว่าใครที่เป็น Star Performer ในองค์กร และเป็นประเภทไหน เพราะเหตุผลอะไร โดยข้อมูลนี้จะแสดงผลร่วมกันกับ People Risk โดยตัว People Risk นี้ ระบบจะส่งข้อมูลของคนที่กำลังมีปัญหา มีความตึงเครียด หรือมีความทุกข์ใจอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งทำให้คนๆ นั้นมีแนวโน้มที่จะหมดไฟ หมดใจที่จะทำงานและอาจจะกำลังคิดที่จะลาออก ซึ่งเราจะบอกถึงระดับความวิกฤต และระบุถึงด้านที่คนๆ นั้นกำลังเผชิญปัญหาอยู่ ให้องค์กรมีประเด็นที่จะทำความเข้าใจและเข้าถึงพนักงานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีส่วยนช่วยเพิ่มโอกาสในการที่จะรักษาพนักงานคนนั้นเอาไว้ได้ ยิ่งถ้าพนักงานคนนั้นเป็นพนักงานที่เป็น Star Performer แล้วล่ะก็ การที่เราสามารถรักษาเขาไว้ได้ ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อองค์กรมากขึ้นไปอีก

Relational Analytics

ข้อมูลชุดนี้จะทำให้องค์กรทราบถึงเครือข่ายความสัมพันธ์หรือเน็ตเวิร์กของ Impact จากคนๆ หนึ่ง ไม่ว่าจะทางบวกหรือลบ ยกตัวอย่าง ถ้าเราอยากจะเอาเครื่องมือใหม่เข้าไปใช้งาน ตามปกติเรามักจะเรียกพนักงานทุกคนมาอบรมการใช้งาน เว้นวรรค ซึ่งเราจะพบว่ามีหลายครั้งที่พนักงานไม่สนใจหรือไม่ให้ความร่วมมืออย่างที่เราต้องการ แต่ถ้าเราดึงแค่พนักงานที่มีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่กว้างขวางเข้ามาเป็นกลุ่มเริ่มต้น และให้คนในกลุ่มนี้เป็นคนผลักดันและขยายวงออกไป เริ่มบอกต่อ ส่งต่อเครื่องมือใหม่ ให้คนรอบตัว ซึ่งจากการวิจัยของเรา พบว่าการพูดกันแบบปากต่อปากในกลุ่มพนักงานกันเอง ให้ผลสำเร็จในเรื่องนี้ได้มากกว่า

ในอีกมุมหนึ่งคือหากเราพบว่าพนักงานคนไหนกำลังไม่มีความสุขกับการทำงานหรือมีความเสี่ยงที่จะลาออก หรือกำลังมีอาการที่เรียกว่าเป็น Toxic Person ในที่ทำงาน เราจะรู้ได้ทันที ว่าคนๆนี้ ส่งผลกระทบหรือพลังในด้านลบไปถึงใครบ้าง วงกว้างแค่ไหน

Sparks & Micro-Learning

สิ่งที่ช่วยให้องค์กรเติบโตและก้าวหน้าได้ดีที่สุด คือการที่องค์กรเต็มไปด้วยทรัพยากรบุคคลที่มีทัศนคติ(Mindset)ที่ดี แต่ทัศนคติที่ดี ไม่สามารถสร้างได้จากการเข้าอบรมหรือคำสอนเพียงครั้งหรือสองครั้ง หากแต่เกิดจากการที่พนักงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้พวกเขามีทัศนคติและกรอบคิดที่ดี สิ่งที่เล็กๆ สำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการสร้าง mindset ที่ดีได้ คงจะหนีไม่พ้นสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่าง การอ่านหนังสือเพื่อการพัฒนาตัวเอง หรือข้อความสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ ที่ล้วนแต่เป็นอาหารสมองชั้นดี ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาและปรับเปลี่ยน mindset ของเราได้ หากได้รับอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ Happily ฟีเจอร์ที่เรียกว่า Sparks เพื่อช่วยในเรื่อง Mindset Transformation โดยเฉพาะ เรานำเอาบทความดีๆ หรือข้อความที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองจากหนังสือขายดีทั่วโลก คำคมและคำสอนที่น่าสนใจจากนักวิชาการเหล่ากูรูไปจนถึงเซเลปและคนดัง บทภาพยนตร์หรือเนื้อเพลงที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คน มาทำให้เป็นการ์ดบทความสั้นๆ ที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย ใช้เวลาน้อยแต่เปี่ยมไปด้วยพลังที่จะจุดประกายไฟในตัวคุณให้กลับมาซาบซ่าอีกครั้ง

Rewards

เพิ่มความสุขให้พนักงาน : หลายครั้งที่เราพบว่า การให้รางวัลแก่พนักงานเป็นเรื่องยาก คาดเดายาก จัดการก็ยาก เอาใจก็ยาก บางทีให้ไปแล้วพนักงานก็ดูเหมือนไม่อยากได้ นั้นเป็นเพราะคนที่ให้ไม่ได้ใช้ คนที่ใช้ไม่ได้ต้องการ เช่น ผู้บริหารใจดี มอบบัตรกำนัลทานกาแฟหรูฟรีมูลค่า 200 บาทให้พนักงานทั้งบริษัท เป็นการขอบคุณที่พนักงานทุกคนปฏิบัติงานได้ดีเยี่ยม แต่พนักงานบางคนที่ไม่ทานกาแฟหรือไม่ได้มีความชื่นชอบในกาแฟ เงินมูลค่า 200 บาทนี้ พนักงานอาจจะอยากเอาไปซื้อของจำเป็นบางอย่างที่ทางบ้านกำลังขาดแคลนมากกว่า ความสุขที่ผู้บริหารตั้งใจจะมอบให้ จึงอาจสร้างความสุขแบบครึ่งๆ กลางๆ คนให้ก็เอาใจไม่ถูก คนรับก็เอนจอยไม่สุดซึ่งเราค้นพบว่า Flexible Rewards สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีที่สุด Happily มีของรางวัลที่หลากหลาย เข้าได้กับทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของพนักงานแต่ละคน เปิดโอกาสให้พนักงานได้เลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และมีความสุขกับสิ่งที่ได้รับจากการเลือกที่ตรงใจกว่า ลดเวลาที่ต้องเสียไปกับการประชุมเพื่อเดาใจพนักงาน และไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าพนักงานจะถูกใจจะดีใจที่ได้รับหรือเปล่าอีกด้วย

และนี้คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อองค์กรของคุณเริ่มใช้งาน Happily.ai ประสบการณ์ที่สามารถเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าพนักงานจะอยู่ที่ไหน ข้อมูลสำคัญต่างๆ ก็ยังถูกส่งเข้าระบบผ่านการวิเคราะห์ จัดทำเป็นรายงาน พร้อมนำส่งถึงมือผู้ที่สามารถใช้งานรายงานข้อมูลเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่าย HR หัวหน้าทีม และผู้บริหาร เพื่อประสบการณ์ที่ดีของพนักงานและการดูแลองค์กรที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคย

‍