การมาถึงของ The Great Return
ในปี 2015 50% ของ HR 1,800 คนในอเมริกายอมรับว่าองค์กรมีนโยบายไม่รับพนักงานเก่ากลับมาทำงานไม่ว่าจะจากกันด้วยดีหรือไม่ก็ตาม แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ The Great Returnกำลังจะมาให้เห็นกันมากขึ้น หลายคนอาจไม่ค่อยแปลกใจเท่าไรเราเรียกพนักงานกลุ่มนี้ที่ลาออกไปแล้วกลับมาทำงานในบริษัทเดิมว่า Boomerang Employees หรือแม้กระทั่งในตำแหน่งสูงสุดขององค์กรอย่าง Boomerang CEOก็มีให้เห็นมากขึ้น โดยการสำรวจ The Corporate Culture and Boomerang EmployeeStudy โดย Workplace Trends ซึ่งการสำรวจครอบคลุมทุกช่วงวัยทั้ง Millenials กลุ่มGen X และ Baby Boomers พบว่า
ฝั่งพนักงาน ส่งผลมากแค่ไหน?
● ในช่วงที่ผ่านมา มีพนักงาน 15% ที่กลับไปทำงานเดิม
● 40% บอกว่าไม่ได้ปิดโอกาสหากจะกลับไปทำงานที่บริษัทเดิม
● Boomerang employees คิดเป็น 4.5% ของการจ้างงานใหม่ในปี 2021 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 3.9% ในปี 2019 (ข้อมูลจาก linkedin)
● 80% ของพนักงานบอกว่านายจ้างไม่มีแผนในการรับกลับเข้าทำงาน
● 64% บอกว่านายจ้างไม่ได้มีการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อเป็นระยะ
ฝั่ง HR เปลี่ยนไปแค่ไหน?
● HR 76% ยอมรับการจ้างพนักงานเดิมกลับมาทำงานมากกว่าสมัยก่อน
● อีก 40% บอกว่าองค์กรได้จ้างพนักงานที่กลับมาสมัครงานกับบริษัทอีกครั้งจำนวนครึ่งหนึ่ง
ฝั่ง Managers คาดหวังอย่างไรบ้าง?
● 51% ของหัวหน้างาน บอกว่าจะพิจารณาพนักงานเก่าก่อน
● 28% ของหัวหน้างาน ยังบอกอีกว่าข้อดีคือคนเหล่านี้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้ดีและไม่ต้องการการสอนงานหรือฝึกอบรมมากนัก
ทำไมพนักงานเลือกออกจากองค์กรแต่ยังเปิดโอกาสในการกลับมาเสมอ
1) Professional : ต้องการโอกาสใหม่ ไปเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆนอกเหนือจากงานปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อโลกเปลี่ยนเร็ว มีความรู้และทักษะใหม่ ๆเกิดขึ้นมากมายในโลกภายนอก และหวังว่าการพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดนี้จะนำมาซึ่งเงินเดือนที่สูงขึ้นแม้ในบริษัทเดิมก็ตาม
2) Passion : อยากลองอะไรใหม่ ๆ ในธุรกิจอื่นหรือความสนใจส่วนตัว ซึ่งก็เป็นอีกเทรนด์ที่มาแรงในช่วงปีที่ผ่านมาคนไม่ได้แค่ลาออกจากงานเดิม แต่เปลี่ยนสายงานไปอย่างสิ้นเชิงเลยเนื่องจากคนได้ใช้เวลาในช่วงล็อกดาวน์เพื่อคิดทบทวนเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้นรวมถึงลองเปิดใจให้กับอาชีพใหม่ๆ มากขึ้น
3) Personal : กำลังเผชิญสถานการณ์ในชีวิตและครอบครัว เช่นมีลูก หรือ ต้องดูแลผู้ป่วย
4) Pause : ต้องการหยุดพักเมื่อคนรุ่นใหม่มองการทำงานไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตอีกต่อไปหลายคนจึงเลือกที่จะพักจากการทำงานเป็นช่วง ๆ แล้วอาจกลับมาทำงานใหม่ในปีถัดไป
5) Pain : ความรู้สึกของการถูกละเลย ทิ้งให้ทำงานหนักและแบกงานของเพื่อนร่วมงานและจำนวนพนักงานที่ลดลงหรือเจ็บป่วยโดยไม่ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นหรือการดูแลยกย่องชมเชย
6) People : วัฒนธรรมองค์กรและเพื่อนร่วมงานที่มีวิธีคิดและการทำงานเชิงลบหรือ Toxic Culture
ซึ่งข้อ6-7 นี้มักทำให้พนักงานที่มีความสามารถต้องคิดหนักถ้าจะกลับมาร่วมงานในตำแหน่งงานเดิมอีกครั้ง
Boomerang Employees กลายเป็นแหล่ง Talent Pool แห่งใหม่ขององค์กรที่หลายคนเพิ่งค้นพบ
การจ้างพนักงานคนเดิมกลับมาทำงานอีกครั้งไม่ว่าจะในตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งข้างเคียงย่อมเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ง่ายที่สุดสำหรับองค์กรในการแก้ปัญหาการขาดคนทำงานองค์กรจะได้คนที่รู้เบื้องลึกขององค์กรและรู้จักผู้คนและทีมงานเป็นอย่างดีอยู่แล้วเรียกว่าต่อให้ติดไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ต้องกังวลมากกับงบประมาณในการจ้างกลับมาที่อาจจะสูงโดดหากมองหาคนใหม่จากองค์กรอื่นเข้ามาแทน
● Hiring cost : การจ้างงาน Boomerang Employees ใช้ค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน ลดลง 2 ใน 3 ส่วน โดยบริษัทในFortune 500 สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง $12 million ต่อปี
● Onboarding : การปฐมนิเทศที่เร็วขึ้นและข้ามบางขั้นตอนช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง $20,000 ต่อคน
● Performance : จากการสำรวจพนักงาน 13,000 คน พบว่าพนักงานที่กลับมาทำงานใหม่ มีผลงานที่ดีกว่าพนักงานใหม่เกือบ 100% และมีโอกาสได้เลื่อนขั้นมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ในปี 2020 การสำรวจจาก MIT Sloan Management study พบว่าบริษัทที่บริหารโดย Boomerang CEO มีผลประกอบการที่ต่ำกว่าบริษัทที่บริหารงานโดย CEO ใหม่ถึง 10% แต่บอร์ดบริหารหลายแห่งก็ยังตัดสินใจเลือก Boomerang CEO หากไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าท่านเดิม หรือไม่อยากรับความเสี่ยงในการปล่อยให้บริษัทบริหารงานโดยคนใหม่การบริหารงานโดยคนเดิมก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดอะไร
แล้วองค์กรควรรับมืออย่างไร?
ถึงแม้ว่าการรับพนักงานเดิมที่มีความสามารถกลับมาทำงานจะมีข้อดีหลายอย่าง HR ควรมีวิธีการรับมือกับ Boomerang Employees อย่างมืออาชีพ
1) ต้องสามารถระบุเหตุผลที่รับพนักงานคนเดิมกลับมาทำงานได้ชัดเจนวัตถุประสงค์ ความสามารถ ประโยชน์ของทั้งองค์กรและพนักงานจากการจ้างงาน
2) ทำความเข้าใจถึงความตั้งใจจริงและเหตุผลที่ Boomerang Employees จะกลับมาทำงานเดิม เหตุผลที่ต่างจากตอนที่ตัดสินใจลาออกและไม่ใช่เพียงเพราะพนักงานลาออกไปแล้วไม่ประสบความสำเร็จกับที่ทำงานใหม่จึงกลับมา
3) หาก Boomerang Employees เป็น Resource ที่ดีสำหรับ Talent Pool ขององค์กรหัวหน้างานหรือ HR ต้องใช้ประโยชน์ด้วยการเข้าหาพนักงานเช่นเดียวกับผู้สมัครอื่น ๆ ในเชิงจิตวิทยาพนักงานบางคนอาจมีความเชื่อว่าการกลับมาทำงานเดิมเป็นการยอมรับว่าล้มเหลวในการตัดสินใจก่อนหน้าและรู้สึกไม่สะดวกใจในการพูดคุยกับนายจ้างเดิม ถึงแม้ว่าจะลาออกมาด้วยดีก็ตาม
4) การดูแลการต้อนรับอย่างอบอุ่นในช่วงแรกของการกลับมาทำงานจะช่วยเติมไฟให้ Boomerang Employees มีความรู้สึกเป็นบวกและตื่นเต้นไปกับการกลับมาทำงานที่เดิมในครั้งใหม่นี้
5) การปฐมนิเทศและการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่จำเป็นโดยเฉพาะเมื่อองค์กรมีการปรับทิศทางธุรกิจหรือมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ
6) ถ้าพนักงานออกไปเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีหรือวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างมาระยะหนึ่งต้องมั่นใจว่าจะไม่นำเอาสิ่งเหล่านั้นกลับมาทำลายบรรยากาศดีๆ ในองค์กรเดิมหรือสร้างความรู้สึกที่แบ่งแยกกับพนักงานเดิมในองค์กร
7) การมอบหมายภารกิจที่ท้าทายกว่าเดิมและการพูดคุยถึงบทบาทในการทำงานความคาดหวังของการกลับมาทำงานของ Boomerang Employees ในครั้งนี้
Boomerang Employees เป็นเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนดังนั้นองค์กรควรเตรียมพร้อมในการรับมือและใช้โอกาสนี้เพื่อสร้าง Talent Pool ที่เข้มแข็งแหล่งเดิมนี้ และเตรียมรับมือกับโอกาสและความท้าทายทางธุรกิจในปี 2023นี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
อ้างอิง
● https://fortune.com/2022/09/26/boomerang-employees-untapped-talent-pool-bosses-talent-jobs-careers-james-bailey/
● https://www.bamboohr.com/resources/hr-glossary/boomerang-employee#:~:text=A%20boomerang%20employee%20is%20an,of%20boomerang%20employees%20to%20discuss.
● https://hrme.economictimes.indiatimes.com/news/workplace/the-great-comeback-rise-of-boomerang-employee-culture/91779820
● https://www.kornferry.com/insights/this-week-in-leadership/boomerang-ceos-do-they-succeed
● https://www.kornferry.com/insights/briefings-magazine/issue-57/catching-boomerangs
● https://www.linkedin.com/business/talent/blog/talent-acquisition/why-boomerang-employees-will-be-more-common