>
เทคนิคการควบคุมความคิดแบบซ่อนเร้น
August 24, 2021

เทคนิคการควบคุมความคิดแบบซ่อนเร้น

เมื่อการใช้ทวิตเตอร์ เพื่อปั่นกระแสโดย IO มีข้อจำกัดเนื่องจากตรวจสอบได้ง่าย การควบคุมความคิดในระดับจิตใต้สำนึกผ่านการส่งข้อความซ่อนเร้น (Subliminal Messages) เป็นอีกทางเลือก แม้จะเป็นเทคโนโลยีสายดาร์กที่ถูกห้ามใช้ในหลายประเทศ

การปรับระบบความคิดของคนในสังคมให้สอดคล้องกับแบบแผนที่กำหนด สามารถทำได้หลายวิธี ถ้าเลือกแบบเปิดเผยและใช้กันมากโดยเฉพาะช่วงก่อนสงครามครามโลกครั้งที่สอง คือ ‘การโฆษณาชวนเชื่อ’ จุดประสงค์เพื่อชักจูงประชาชนให้ยอมรับในอุดมการณ์ชาตินิยม มักจะมีเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์แต่ให้เหตุผลสนับสนุนด้านเดียว รัฐต้องอาศัยการควบคุมสื่อแบบเข้มงวดและประชาสัมพันธ์ซ้ำ ๆ เพื่อให้จดจำ แต่เมื่อความขัดแย้งทางอุดมการณ์รุนแรงขึ้นในยุคสงครามเย็นการโฆษณาชวนเชื่อก็ถูกพัฒนาให้เป็นระบบกลายเป็น ‘การล้างสมอง’ ซึ่งเป็นเทคนิควิธีทางจิตวิทยาโดยบีบให้มีการสารภาพความผิดก่อน จากนั้นจะใช้วิธีรุนแรงและผ่อนปรนสลับกัน ร่วมกับการบังคับ ขู่เข็ญ ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจเพื่อให้ละทิ้งความคิด ความเชื่อเดิม แล้วจึงปลูกถ่ายความคิดแบบใหม่ใส่เข้าไปแทน สำหรับประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยอยู่บ้างอาจมีวิธีการที่เบาลง เรียกว่า ‘การโน้มน้าวใจ’ ผ่านกลวิธีการให้แรงจูงใจต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนความเชื่อ ทัศนคติ ค่านิยมและพฤติกรรมจนเกิดการยอมรับและยอมเปลี่ยนตามที่ผู้โน้มน้าวใจต้องการ

ในยุคอินเทอร์เน็ต รูปแบบดังกล่าวดูจะล้าสมัย สิ้นเปลือง ใช้เวลานาน ไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง และที่สำคัญให้ความรู้สึกเชิงลบ การปรับระบบความคิดและสร้างความเชื่อที่ต้องการ ได้หันมาใช้สื่อสังคมออนไลน์แทนเนื่องจากทำได้ง่าย รวดเร็วทันกระแส ต้นทุนถูก และกระจายได้ในวงกว้าง เครื่องมือ เช่น การติดแฮชแท็กคำบนทวิตเตอร์ ทำให้ค้นหาข้อความและเข้าถึงโพสต์ได้ง่ายขึ้น ยิ่งทวิตเตอร์มีการจัดอันดับแฮชแท็กยอดนิยมอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้ใช้สื่อเกิดความรู้สึกโน้มเอียงไปตามกระแส เมื่อได้รับข้อมูลในความเชื่อแบบเดิมซ้ำไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะคิดว่าเป็นเรื่องจริงและคล้อยตามในที่สุด และถ้าประสานกับการทำให้เป็นระบบผ่าน ‘ปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operations หรือ IO)’ ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น IO เริ่มใช้เป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 2003 โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นปฏิบัติการทางจิตวิทยาที่พยายามควบคุมปลูกฝังความคิดที่ต้องการ และทำลายความเห็นต่าง โดยจะเริ่มจากการหาจุดสนใจที่เป็นจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม แล้วสร้างคีย์เวิร์ด เป็นตัวเดินเรื่อง พัฒนาชุดความคิดเพื่อลดความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะรวมถึงการบิดเบือนข้อมูลเพื่อสร้างภูมิทัศน์เรื่องราวเท็จทำลายฝ่ายเห็นต่าง และสนับสนุนเรื่องราวของฝ่ายตนเอง เสมือนเป็นการชิงความได้เปรียบในการรบ หรือการทำสงคราม การทำงานของ IO ต้องอาศัยกลุ่ม Troll Army หรือ เกรียนคีย์บอร์ด ที่จะคอยสร้างกระแสผ่านการรีทวีท รวมทั้งอาจใช้บอทซึ่งย่อมาจากคำว่าโรบอท ช่วยปั่นคีย์เวิร์ดจนติดอันดับยอดนิยม เนื่องจาก IO จำเป็นต้องสร้างเพจและบัญชีผู้ใช้ปลอมจำนวนมาก ถ้าทวิตเตอร์ ตรวจพบก็จะทำการระงับบัญชีทั้งหมด

ถ้าไม่สามารถใช้ IO ในการควบคุมความคิดได้อย่างคล่องตัว ยังมีรูปแบบการจัดระบบความคิดที่อาศัยเทคโนโลยีสายดาร์ก คือ การส่งข้อความซ่อนเร้น (Subliminal Messages) อย่างรวดเร็ว ผ่านสื่อโทรทัศน์ ภาพยนต์ รวมทั้งการ Live ผ่าน VDO Streaming โดยผู้รับข่าวสารไม่รู้ตัว เทคนิคนี้อาศัยการปลุกจิตใต้สำนึกของมนุษย์ ซึ่งนักจิตวิทยาพบว่าจะทำงานโดยไม่มีการตั้งข้อสงสัย ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ให้ทำในสิ่งที่ตามปกติจะไม่ทำ จิตใต้สำนึกทำงานแบบ Auto Pilot มีพลังในการประมวลผลข้อมูลในเวลาเดียวกันได้ถึง 20,000 บิต ในขณะที่จิตสำนึกต้องใช้เหตุและผลจึงจัดการข้อมูลได้แค่ 5-9 บิต เท่านั้น มีการทดลองเทคนิคนี้หลายครั้ง เช่น นักการตลาด เจมส์ วิคคารี ส่งข้อความ ‘ดื่มโค้ก’ ‘หิว?’ ‘ทานป๊อปคอร์น’ แฝงในภาพยนต์โฆษณาในโรงภาพยนตร์ ข้อความจะปรากฏบนหน้าจอทุก 5 วินาที เป็นเวลาสั้น ๆ ประมาณ 1/3 มิลลิวินาที ด้วยความเร็วดังกล่าวผู้ชมไม่สามารถทราบว่ามีการส่งข้อความออกมา แต่มีผลต่อ จิตใต้สำนัก รายงานสรุปว่ายอดขายโค้กวันนั้นเพิ่มขึ้น 18.1% และป๊อปคอร์น 57.5% แม้ว่าผลการทดลองนี้ขาดความน่าเชื่อถือ แต่ก็ยังมีการใช้เทคนิคนี้อีกหลายครั้ง เช่น ในระหว่างการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่าง จอร์จ บุช และอัล กอร์ ในวิดีโอโฆษณาของพรรครีพับลิกัน มีการส่งข้อความกระพริบ ‘RATS’ ประมาณ 1/30 วินาที เป็นระยะ ๆ ตามด้วยข้อความปกติ ‘Bureaucrats’ จุดประสงค์เพื่อโจมตีข้อเสนอแผนสุขภาพของ อัล กอร์ ที่บริหารแบบราชการ นอกจากยังมีการทดลองของมหาวิทยาลัยดุ๊ก และวอเตอร์ลู กับนักศึกษา 341 คน กลุ่มแรกกระพริบโลโก้ Apple ให้ดู 30 มิลลิวินาที กลุ่มที่สองทำแบบเดียวกันกับโลโก้ IBM จากการทำแบบทดสอบทักษะพบว่ากลุ่มนักศึกษาที่กระพริบโลโก้ Apple จะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากลุ่มที่กระพริบด้วยโลโก้ IBM

การส่งข้อความซ่อนเร้นไม่ได้มีประโยชน์ในด้านการตลาดเท่านั้น สามารถนำไปใช้ปรับระบบความคิดในประเด็นอื่นโดยเฉพาะทางการเมืองได้เช่นกัน ซิมเบอร์แมน อาจารย์มหาวิทยาลัยมินนิโซต้า เชื่อว่า การส่งข้อความซ่อนเร้นอาจส่งผลกระทบต่อระบบความคิดได้ไม่มากก็น้อย แต่จะคงอยู่ไม่นาน อย่างไรก็ตาม เพื่อกันไว้ก่อน หลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ยกเว้นสหรัฐอเมริกา มีนโยบายห้ามใช้เทคนิคดังกล่าวในสื่อต่าง ๆ เพราะเกรงว่าการส่งข้อความซ่อนเร้นอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมออาจกลายเป็นการปลูกฝังความคิดไปได้ในที่สุด

ฐานเศรษฐกิจ Online, 2563. “รู้จักเทคโนโลยีสายดาร์ก", 7 ธันวาคม 2563.

Tag:
No items found.
Share this post:
ดร.ณัฐวุฒิ พงศ์สิริ

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024