>
เราควรบริหารจัดการตัวเองอย่างไร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานแบบ Hybrid Work
April 26, 2022

เราควรบริหารจัดการตัวเองอย่างไร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานแบบ Hybrid Work

คำถามที่ HR ส่วนใหญ่มักได้รับหน้าที่จากผู้บริหารในช่วงนี้คือ “เราจะออกแบบการทำงานของพนักงานอย่างไรดี ถึงจะได้ประสิทธิภาพสูงที่สุดในระหว่างทำงานระยะไกล แบบ Hybrid Work?” แน่นอนว่าเป็นคำถามที่ท้าทายกระบวนการคิดเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลายสิบปีที่ผ่านมา พวกเราล้วนแล้วแต่คุ้นเคยกับการทำงานในสถานที่ทำงาน แวดล้อมด้วยอุปกรณ์สำนักงานที่ครบครัน มีเพื่อนร่วมงานที่คุ้นเคย มีห้องประชุมให้สามารถนั่งระดมความคิดกันได้ตลอดเวลา เวลามีเรื่องติดขัดก็สามารถเดินไปหาผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทันที เพราะทุกคนอยู่รวมกันในสำนักงานแห่งนั้น

การเปลี่ยนไปของภาพการทำงานต่อจากนี้นอกจากจะท้าทายความสามารถในการบริหารจัดการองค์กรแล้ว ยังท้าทาย “ตัวพนักงาน”เองด้วยเช่นกัน เพราะคำถามนี้ย่อมต้องเกิดขึ้นกับคนทำงานทุกคนเช่นเดียวกันนั่นเองงานวิจัยจาก PewResearch Center พบว่าปัจจุบันคนอเมริกันกว่า 70% ทำงานแบบระยะไกลจากที่บ้านในขณะนี้ (เพิ่มขึ้นก่อนเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าถึง 50%)

สาเหตุหลักที่ทำให้พวกเขาสามารถปรับตัวให้ทำงานจากที่บ้าน(หรือที่ไหนก็ได้) ส่วนใหญ่คือการที่โลกในการทำงานตอนนี้มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นเสมือนหนึ่งอยู่ที่สำนักงานเช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถส่งเอกสารพร้อมแนบลายเซนต์ที่ถูกต้องตามกฏหมายได้หรือการขอนัดประชุมด่วนโดยดูตารางนัดจาก online calendar ของเพื่อนร่วมงานได้ทันทีทำให้ไม่จำเป็นต้องคอย Chat ถามว่าใครสะดวกหรือไม่

แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลากล่าวคือถึงแม้การทำงานจากระยะไกลอาจจะได้รับการปรับปรุงให้สะดวกสบายขึ้นในปัจจุบันมากแล้วก็ตามแต่บางงานก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ามาในสำนักงานเป็นครั้งคราวในขณะที่กระแสของ HybridWork กำลังแพร่หลายไปทั่วโลกดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากพนักงานคนใดคนหนึ่งจะต้องเตรียมพร้อมทำงานแบบผสมทั้งจากที่บ้านและที่สำนักงานพร้อมๆ กันและนี่คือสิ่งที่ขอแนะนำเพื่อใช้ออกแบบรูปแบบการทำงานในระหว่างที่คุณกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับHybrid Work

 

1.     จงเข้า Office ในยามที่ทีมต้องการคุณ

SHRM ได้สำรวจพบว่า 81% ของผู้ทำงานจากระยะไกลเกิดปัญหาขัดแย้งกันในระหว่างประชุมแบบทางไกลโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านทาง “ตัวอักษร” งานสำรวจพบว่า กว่า 36% มีความเครียดจากการอ่านข้อความใน application chat ที่มาจากผู้บังคับบัญชาเนื่องด้วยตัวอักษรบางครั้งไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ของผู้เขียน จึงทำให้เกิดความขัดแย้งหรือความไม่สบายใจต่อกันได้ง่าย ดังนั้นหากคุณพบว่าตัวเองกำลังจะต้องบริหารจัดการการประชุมที่ต้องการการตัดสินใจหรือต้องการการถกเถียงที่ใช้อารมณ์ที่หลากหลาย จึงควรนัดเป็นประชุมแบบ offlineมากกว่า วิธีที่ง่ายที่สุดในการออกแบบการประชุมแบบ Hybrid คือ การสร้าง slot เวลาที่จำเป็นไว้ในปฏิทินการทำงานของคุณเพื่อให้ทีมงานทราบว่าหากต้องการพบตัวคุณ จะสามารถนัดได้เมื่อไหร่ซึ่งคุณอาจจะทำเพียงสัปดาห์ละสองครั้ง หรือสองวัน หรือยืดหยุ่นกว่านั้น หรืออาจเป็นแค่ในการประชุมครั้งแรกที่ต้องการให้ทุกคนในทีมได้รู้จักกันก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยปรับไปเป็นการประชุม online ตามเดิมก็ได้นั่นเอง

อีกประการสำคัญคือ การ on-boarding เนื่องจากหลายบริษัทรับคนเข้ามาในช่วง work from home จึงมีพนักงานที่ไม่เคยพบหน้าเพื่อนร่วมทีมหรือแม้แต่ผู้บังคับบัญชามาก่อนเลยซึ่งนั่นก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่จำเป็นจะต้องมีการประชุมแบบ offline หรือมักเรียกกันว่า offline check-in sessionเชื่อหรือไม่ว่า เพียงแค่ได้เจอหน้ากัน 30 นาที(หริอน้อยกว่านั้น) ก็อาจทำให้คุณลดปัญหาเรื้อรังที่ปวดหัวมายาวนานลงได้ทันที

2.     เราจะเพิ่มประสิทธิภาพตัวเองจากการทำงานระยะไกลได้อย่างไร?

สิ่งสำคัญที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานคือ การเพิ่มประสิทธิภาพของ “พลังงาน” ของตัวคุณเองก่อนเลย บางคนพบว่าการเข้า office ทุกเช้าวันจันทร์ลดทอนความอยากทำงานลงเนื่องจากหยุดวันเสาร์และอาทิตย์ติดต่อกันมา ดังนั้นคุณอาจจะกำหนดไว้ว่า ในระหว่างHybrid Work คุณอาจจะเลือกเข้าสำนักงานเพียงแค่วันอังคาร พุธหรือศุกร์ และใช้วันที่เหลือในการเติมพลังงานของคุณจากการที่ไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติด หรือผู้คนที่ล้มหลามในการแย่งกันขึ้นระบบขนส่งสาธารณะก็ได้ และในทางกลับกันการเข้า Office ก็อาจะเพิ่มพลังให้คุณ การได้เจอเพื่อนร่วมงานได้ทักทาย พูดคุย หยอกล้อกัน ก็จะช่วยลดความเครียดจากการทำงานคนเดียวได้เช่นกันอย่างไรก็ดี ช่วงเวลาที่คุณทำงานอยู่ที่บ้านควรระลึกอยู่เสมอว่าจะต้องมีช่วงเวลาที่เป็น deep work หรือพยายามอย่าให้มีสิ่งต่างๆ เข้ามารบกวนในขณะที่คุณทำงานมิฉะนั้นการทำงานจากที่บ้านอาจจะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร

3.     บริหาร motivation ของตัวเองให้ถูกวิธี

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเช่นนั้น หลายคนสามารถทำงานได้ดีเวลาอยู่เงียบ ๆ คนเดียวหรือตอนกลางดึกเงียบ ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็โหยหาการได้มี human touch ในบางครั้งตัวเราเองย่อมรู้ดีที่สุดว่าการทำงานในสภาพแวดล้อมแบบไหนที่กระตุ้นให้เรามึความสุขในการทำงานหากคุณเริ่มรู้สึกหมดไฟ หรือเริ่มรู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวการนัดประชุมกับเพื่อนร่วมงาน หรือหาเวลาไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันบ้าง ก็อาจจะสร้าง Motivationในการทำงานให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม โดยเฉพาะกลุ่ม Generationใหม่ (อายุ 18 – 49 ปี) จากผลสำรวจของ PewResearch Center พบว่า 42% ของกลุ่มดังกล่าวรู้สึกไม่มีแรงกระตุ้นในการทำงานในภาวะที่ต้องทำงานจากที่บ้านการหาเวลาออกไปเจอกับเพื่อนในที่ทำงาน ก็เหมือนหาเวลาไปออกกำลังกายที่ยิมนั่นเองสภาพแวดล้อมในการทำงานจะโอบล้อมเรา และบางครั้งก็ทำให้เราไฟติดขึ้นมาอีกครั้ง

  

อ้างอิง

HowCoronavirus Has Changed the Way Americans Work | Pew Research Center

Howto Set a Hybrid Work Schedule That Works for You (hbr.org)

SettlingConflicts in a Remote-Work World (shrm.org)

Tag:
No items found.
Share this post:
ภคภัค สังขะสุนทร

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024