>
On-boarding อย่างไร ในยุค Hybrid and Flexible Work
March 24, 2023

On-boarding อย่างไร ในยุค Hybrid and Flexible Work

คุณ Michael D. Watkins ผู้เขียนหนังสือ “The First-90 days” หรือ 90 วันแรก (ของการทำงาน) ได้เป็นคนปลุกกระแสความสำคัญของการทำระบบปฐมนิเทศน์พนักงาน หรือ ที่เรามักเรียกกันติดปากว่า orientation หรือ on-boarding ให้กับวงการ HR มาตั้งแต่ปี 2006 และสิ่งที่เขาเคยนำเสนอนั้นก็ยังคงเห็นผล อยู่จนถึงวันนี้

แม้ว่าการทำงานของโลกใบนี้กำลังจะเปลี่ยนไปในแนวทางที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น หรืออาจจะกลับไปสู่สภาวะปกติอย่างที่เคยเป็น (หลายคนอาจเคยเห็น email ของ Elon Musk CEO บริษัท Tesla ที่ส่งถึงพนักงานทุกคน และกำลังเป็น viral อยู่ในขณะที่เขียนบทความนี้ ตามรูปด้านล่างก็ตาม)

เราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า ไม่ว่าสภาพการทำงานจะเปลียนไป หรือเปลี่ยนกลับมาเช่นไรก็ตามสุดท้ายพนักงานใหม่ที่เข้าสู่องค์กรของเราย่อมไม่มีวันรู้ได้เลยว่าภายในองค์กรของแต่ละที่จะมีสภาพการทำงานเป็นอย่างไร ดังนั้นพนักงานที่กำลังจะย้ายงาน หรือผู้เพิ่งสำเร็จการศึกษาและกำลังจะได้เริ่มงานที่แรกอาจมีความรู้สึกกังวล หรือยังไม่ทราบว่าตนเองจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรก่อนการทำงาน ดังนั้นการช่วยเหลือกลุ่มคนดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ดังที่คุณ Michael ได้เขียนไว้ที่หน้าปกหนังสือของเขาว่าเป็น 90 วันแรกที่สำคัญที่สุดในชีวิตการทำงานของคนหนึ่งคนเลยทีเดียว

Harvard Business Review (HBR) ได้เคยรายงานผลการสำรวจในปี 2017 ว่ามีโอกาสสูงถึง 17% ที่พนักงานเข้างานใหม่จะลาออกภายในระยะเวลาสามเดือนแรก ซึ่งคือเป็นจำนวนที่สูงมากหากเทียบกับค่าเฉลี่ยการลาออกโดยปกติขององค์กร และผลการสำรวจของ Gallup ก็ยังระบุอีกว่ามีเพียง 29% ของพนักงานกลุ่ม Millennials ที่รู้สึกผูกพันกับองค์กร (ในรายงานเรียกพนักงานกลุ่มวัยนี้ว่า job-hopping generation” - หรือกลุ่มที่เปลี่ยนงานบ่อย) หากเราวิเคราะห์ผลการสำรวจทั้งสองชิ้นรวมกัน จะเห็นได้ว่ายิ่งกลุ่มพนักงานเข้างานใหม่และอายุน้อย จะมีโอกาสสูงมากที่พวกเขาเหล่านั้นจะเปลี่ยนงาน หรือลาออกเร็วขึ้นภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี นอกจากนี้ HBR ยังระบุต่อว่า ด้วยระยะเวลาที่สั้นแบบนั้น องค์กรยิ่งต้องรีบเตรียมความพร้อมของพนักงานเข้าใหม่ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศความพร้อมให้พนักงานทุกคนที่เพิ่งก้าวเท้าเข้ามารู้สึกได้ถึงความเร็วที่เหมาะสมและองค์ความรู้ที่ได้รับเพียงพอต่อการรับมือกับปริมาณงาน และค่านิยมองค์กรต่าง ๆ ที่จะถาโถมเข้ามาในช่วงแรกของการเริ่มงานใหม่ได้นั่นเอง

การปฐมนิเทศน์สำคัญอย่างไร?

โดยปกติองค์กรมักจะสร้างแผนการ on-boarding หรือวันแรกของการทำงานด้วยการใช้เวลาไม่กี่วัน หรือหากพูดแบบพื้นฐานทั่วไปคือใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน หรือครึ่งวัน ในการรวมกลุ่มพนักงานเข้างานใหม่ให้รวมตัวกัน ทำกิจกรรมละลายพฤติกรรม เล่นเกมเสริมสร้างความเป็นทีม เล่าประวัติองค์กร อธิบายผลประโยชน์และสวัสดิการ จากนั้นจึงเชิญตัวแทนของแต่ละหน่วยงานให้มารับพนักงานเข้าสู่โลกของการทำงานเป็นอันจบพิธี

ดังนั้นความสำคัญของระบบ on-boarding นั้นไม่ได้มีเพียงแค่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและผู้บังคับบัญชาเท่านั้น แต่ยังหมายถึง Professional support หรือการสนับสนุนการทำงานให้มีความรวดเร็ว และสมกับเป็นมืออาชีพในระยะเวลาที่สั้นที่สุดด้วย จากผลงานวิจัยของ Boston Consulting Group หรือ BCG ระบุว่าการเตรียมความพร้อมที่ดีสำหรับพนักงานใหม่จะสร้างผลกำไรที่เพิ่มขึ้นให้กับองค์กร นี่คือผลลัพธ์ที่จะตามมาหากองค์กรสามารถวางแผนการปฐมนิเทศน์ที่เหมาะสมนั่นเอง

On-Boarding อย่างไร?

หลังจากที่โลกได้รับความสะดวกสบายจากเครื่องมือ และเทคโนโลยีต่าง ๆ การประยุกต์เอาความสามารถเหล่านั้นมาปรับใช้ในงานบริหารทรัพยากรบุคคลก็มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ที่ Google จะให้หัวหน้างานที่กำลังจะมีพนักงานเข้างานใหม่ในหน่วยงานของตน ได้มี electronic checklist ที่คอยเตือนให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ อย่างถูกต้องในระยะเวลาที่เหมาะสม หรือที่ Zappos ก็มีการออกแบบโครงการปฐมนิเทศน์ระยะยาวถึง 5 อาทิตย์ หรือบางองค์กรในประเทศไทยอย่าง SCG ก็มีการเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานเข้างานใหม่ในชื่อโครงการ Ready Together ถึงหนึ่งเดือนด้วยกัน

บุคคลที่มีหน้าที่สำคัญที่สุดในการ on-boarding ไม่ใช่ทีม HR แต่คือหัวหน้างานที่กำลังจะมีลูกน้องคนใหม่นั่นเอง มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งจาก Academy of Management ที่เก็บผลสำรวจจากกลุ่มเด็กจบใหม่จากมหาวิทยาลัยและได้เริ่มงานครั้งแรกเป็นเวลาสองปีจำนวน 409 คนพบว่าหัวหน้างานของพวกเขาให้การสนับสนุนอย่างที่ควรจะเป็นลดลงเป็นอย่างมากตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น

ดังนั้นคำตอบของการสร้างกระบวนการ on-boarding ที่เหมาะสมนั้นรวมไปถึงการพัฒนาหัวหน้างานเหล่านั้นให้มีความรู้ความเข้าใจที่เหมาะสมตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นั่นเอง

แนวทางการ On-boarding ยุคใหม่

ที่ GitLab ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้พนักงานทำงานแบบ fully remote หรือทำงานจากที่ไหนก็ได้ 100% นั้น ให้ความสำคัญกับระบบการ on-boarding พนักงานใหม่เป็นอย่างมาก คุณ Kyle Devin Rogozinski senior director of talent ของ GitLab เคยให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขามอง “คู่มือพนักงานที่มีขนาดหนากว่า 2,000 หน้า” ว่าเป็น roadmap ของการสร้างพนักงานหนึ่งคนขึ้นมา และนอกจากนี้พวกเขาสามารถที่จะย้อนกลับไปอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ที่อยากจะค้นคว้ามันเพิ่มเติม เพราะในนั้นประกอบไปด้วยเนื้อหาที่นอกเหนือจากคุณจะได้รับอะไรจากการทำงานแล้ว ยังมีทั้งแนวทางการก้าวหน้าในสายอาชีพ การทำเรื่องเบิกจ่ายต่าง ๆ การขอนัดพบกับทีม HR รวมไปถึงคู่มือการพัฒนาตนเอง เช่น การทำความเข้าใจเรื่อง engineering หรือ marketing หรือแม้กระทั่งเรื่องอย่าง diversity เช่นความหลากหลายทางเพศเป็นต้น

พนักงานเข้างานใหม่ที่ GitLab เมื่อเริ่มต้นงานวันแรก พวกเขาจะได้พบกับ checklist 337 ข้อที่ควรทำความเข้าใจ และทำให้เสร็จก่อนเริ่มทำงานอื่น ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานหลายคนปรับตัวไม่ทัน บางคนมีวินัยมากเสียจนต้องนั่งทำตาม checklist ต่าง ๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลายคนเร่งความเร็วของ video training 1.5 เท่า ซึ่งไม่ได้เกิดผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่องค์กรตั้งใจไว้ GitLab จึงแก้ปัญหาด้วยการสร้างระบบคู่หู หรือ buddy เพื่อคอยประกบพนักงานเหล่านั้นไม่ให้โหมจนเกินไป และสร้างกลุ่มสนทนาบน Slack ที่รวมพนักงานใหม่เข้าไว้ด้วยกันเพื่อสร้างบรรยากาศในการสอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

อย่างไรก็ตามการนำสิ่งที่องค์กรหนึ่งใช้แล้วได้ผล ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะสามารถหยิบไปใช้ที่องค์กรของเราต่อได้เลยโดยไม่ต้องประยุกต์ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังก่อนนำไปใช้เสมอ และนี่คือประเด็นต่าง ๆ ที่ขอสรุปไว้ในเรื่อง on-boarding ในโลกของการทำงานสมัยใหม่

1. สร้าง portal หรือ ศูนย์รวมการ on-boarding ที่เหมาะสม อาจจะเป็น checklist หรือ document ที่เข้าถึงง่าย พร้อมระบบ search ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถ track / monitor พนักงานที่เข้างานใหม่ได้

2. ระบบ mentor หรือ buddy ที่สามารถช่วยเหลือพนักงานให้เข้าใจวัฒนธรรมองค์กรได้เร็วขึ้น

3. อย่าลืมมี emotional connect ด้วย เช่นกิจกรรมต่าง ๆ หรือการส่ง welcome card หรือชุดของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวันเริ่มงานใหม่

4. สื่อสาร บทบาท หน้าที่ หรือ job role ที่ถูกต้องและเป็นไปอย่างแท้จริงให้พนักงานเข้าใจว่าจะต้องรับมือกับตัวชี้วัดอะไรบ้าง

อ้างอิง

Handbook | GitLab

How this fully remote company makes onboarding “as self-service as possible” (hr-brew.com)

The First 90 Days: 12 Ways to Set Up New Hires for Success | GoCo.io

Your New Hires Won’t Succeed Unless You Onboard Them Properly (hbr.org)

Employee Recognition: Low Cost, High Impact (gallup.com)

How to Get a New Employee Up to Speed (hbr.org)

Tag:
No items found.
Share this post:
ภคภัค สังขะสุนทร

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024