>
ทำงานกับ Gen Z อย่างไรให้สุดปัง
June 6, 2022

ทำงานกับ Gen Z อย่างไรให้สุดปัง

เมื่อไม่นานมานี้ องค์กรได้เปิดรับกลุ่มทำงานกลุ่มใหม่ล่าสุดอย่างกลุ่ม GEN Z เข้ามาในองค์กร และกำลังจะบอกลากลุ่ม Baby Boomers ที่ปัจจุบันใกล้จะเกษียณหรือบางคนก็เกษียณอายุออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว GEN Z กลุ่มแรกที่เข้ามาทำงานในองค์กรหลังจบการศึกษากำลังจะมีประสบการณ์การทำงานครบ 5 ปี และจะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต

แบมแบม GOT7 ลิซ่า Blackpink ศิลปินเชื้อชาติไทยในวงเกาหลีที่โด่งดังระดับโลก และทอม ฮอลแลนด์ นักแสดงที่รับบทสไปเดอร์แมนคนล่าสุดทั้งหมดอายุ 22 ปี และเกิดใน เจเนอเรชั่น Z หรือ GEN Z ที่เกิดในช่วงระหว่างปี 2540 -2555 และปัจจุบันมีอายุระหว่าง11 - 26 ปี พวกเราอาจไม่รู้ว่า GEN Z เป็นกลุ่มช่วงอายุที่มากที่สุดในโลก ซึ่งมีจำนวนถึง 32%ของประชากรโลกทั้งหมด

 

พนักงาน GEN Z

โตมากับโลกยุคดิจิตอล GEN Z เกิดมาพร้อมกับ Wifi และ Internet จะ Downloadข้อมูลอะไรใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาไม่เหมือนสมัยก่อนที่อาจจะใช้เวลาหลักวันในการ Download ข้อมูลขนาดเดียวกัน มี Google เป็น Search Engine อยากหาข้อมูลอะไรก็สามารถหาได้โดยไม่ต้องไปที่ห้องสมุดเปิดหนังสือกองโตไม่นับรวมกับการเข้าถึง Online Application ที่เติบโตมาพร้อมกับพวกเขา ทำให้ GEN Z ไม่เข้าใจการทำงานแบบ Analog งานเอกสารและสามารถปรับตัวเข้ากับการทำงานแบบ Digitalได้ดีกว่า Generation อื่นๆ

โตมากับความหลากหลาย GEN Z มีความคุ้นเคยกับความหลากหลายทั้งเรื่องเพศ เชื้อชาติ ความชอบ และสไตล์ส่วนตัวของแต่ละคนเพราะฉะนั้นเขาไม่สนใจว่าหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน รวมถึงคู่ชีวิตของเขาจะเป็นเพศอะไร เชื้อชาติอะไร สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะ GEN Z เกิดมาพร้อมกับโลกไร้พรมแดน คุ้นเคยกับการเข้าถึงข้อมูล โลกของ GEN Z จึงเข้าใจว่าความจริงไม่ได้มีแค่สิ่งเดียว เพศไม่ได้มีแค่ 2 เพศเขาจึงมองหาองค์กรที่มีความชัดเจนในเรื่องการดูแลคนที่มีความแตกต่างกันได้อย่างเป็นรูปธรรม

โตมากับความคิดก้าวหน้า ภาพเยาวชนออกมาเดินขบวนประท้วงทั่วโลกการรณรงค์เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การแบนเรื่องของทรงผมและความอยากที่จะแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียนในประเทศไทยเป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นภาพได้ชัดว่า GEN Zเป็นช่วงวัยที่มีคำถามและต้องการคำตอบ อะไรที่เขาคิดว่าไม่เป็นเหตุเป็นผล เขาก็พร้อมที่จะแสดงออกให้คุณค่ากับวิทยาศาสตร์ การให้เหตุผล มากกว่าความรู้สึกหากจะนำจุดแข็งนี้มาใช้กับองค์กร องค์กรควรจะเตรียมสภาพแวดล้อมให้ GEN Z แสดงออก เกิดความคิดสร้างสรรค์ และสิ่งใหม่ๆแก่องค์กร

การต้อนรับน้องใหม่ GEN Z เข้ามาในองค์กรจึงควรให้ความสำคัญกับการจัดสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้กับความคิดสร้างสรรค์และส่งเสริมการพัฒนาทักษะใหม่ๆ  การเปิดรับเทคโนโลยีที่ทันสมัยรวมถึงการบริหารความสมดุลในชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานให้กับพนักงานองค์กรจึงควรที่จะเตรียมความพร้อม เช่นมีพี่เลี้ยงที่เข้าใจเรื่องการทำงานกับคนรุ่นใหม่และทำความเข้าใจกับคนต่างรุ่นในองค์กรให้เข้าใจความแตกต่างของคนแต่ละช่วงวัยแม้ว่าผู้เขียนเองจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องลักษณะจำเพาะหรือนิสัยเฉพาะของคนแต่ละ Generation ซักเท่าไร แต่ตัวอย่างที่ยกมาพูดถึงก็น่าจะเป็นรูปธรรมและเป็นความจริงที่สามารถอธิบายได้ในส่วนขององค์กรเองก็ไม่ควรไปดูแล Generationไหนเป็นพิเศษจนลืมไปว่าจะต้องดูแลคนในองค์กรอย่างเหมาะสมตามความต้องการของแต่ละคนไม่ว่าจะอยู่ในGeneration ใดก็ตาม

ต่าง GEN เข็นองค์กร

ในอดีตเราเคยมีวาทกรรมหนึ่งที่เคยบอกว่าเด็ก GEN Y ควบคุมยาก เอาแต่ใจ จะเป็นปัญหาขององค์กรพอผ่านเงื่อนไขของเวลามาระยะหนึ่ง และคน GEN Yเริ่มเติบโตและก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารขององค์กร ผมเชื่อว่าเราพบข้อเท็จจริงว่าคนที่เป็นปัญหาขององค์กรมีทุก Generationไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของ GEN แต่อย่างใด บางคนเกิดจากนิสัยส่วนตัวบางคนก็เกิดจากการบ่มเพาะขององค์กรที่ไม่ดีเพียงพอ มีหัวหน้าที่ไม่ดีนอกจากไม่สอนงานแล้วยังปลูกทัศนคติที่ไม่ดีให้ หรือองค์กรจับเอาลิงไปว่ายน้ำไม่ตระหนักถึงศักยภาพและได้เติบโตบนจุดแข็งของแต่ละคน การนำคนต่าง Generation ที่มีการเติบโต การเรียนรู้ ประสบการณ์แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การใช้จุดแข็งของแต่ละ Generation ก็มีข้อดีและจุดแข็งที่น่าจะเป็นประโยชน์เพื่อส่งเสริมความหลากหลายและสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการเรียนรู้และการเติบโตของพนักงานทุกคนในองค์กร องค์กรควรให้ความสำคัญและเตรียมสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยกับการทำงานของคนต่าง GEN ตามหลักการต่อไปนี้
 

1.สร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและสนับสนุนความหลากหลายองค์กรควรสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้แก่ทุกคนไม่ว่าจะอายุเพศ เชื้อชาติ ใด ๆ ในการเข้าร่วมหน่วยงานทีมงาน และโอกาสในการพัฒนาอาชีพ กำหนดนโยบายที่เปิดกว้างเรื่องการรับคนที่หลากหลายและการบริหารคนที่หลากหลาย

2.ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาองค์กรควรส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของพนักงานทุกคน โดยเสริมสร้างโอกาสในการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละบุคคลในกลุ่มงานให้สมาชิกทุกคนในทีม เข้าร่วมอบรม สัมมนา หรือโปรแกรมพัฒนาที่เหมาะสม

3.การสร้างความสัมพันธ์และความสามัคคี การสร้างทีมที่มีความสามัคคีและความเข้าใจกันส่งผลให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น องค์กรควรส่งเสริมความสามัคคีในทีมผ่านกิจกรรมที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมและมีโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กันเปิดโอกาสให้ทุกคนมีพื้นที่ได้พูด ได้แสดงออก

แต่ละ Generation มีความรู้และประสบการณ์ที่แตกต่างกัน GEN Z มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีเข้าใจเทคโนโลยีได้ด้วยเวลาไม่นานในขณะที่กลุ่มคนที่มีประสบการณ์มากกว่า มีความเข้าใจธุรกิจในเชิงลึกสามารถแบ่งปันและเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้คนที่มีประสบการณ์มากกว่าก็เคยพบทั้งความสำเร็จและล้มเหลวก็ช่วยในการให้มุมมองและสร้างทัศนคติที่ดีกับคนรุ่นใหม่ได้ รวมถึงการให้คำแนะนำและการพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตในสายอาชีพ

 

การมีคนหลายๆ Generation ทำงานร่วมกันจึงเป็นประโยชน์กับองค์กรมากกว่าการพยายามแบ่งคนกลุ่มวัยเดียวกันอยู่ในทีมเดียวกันการมีความหลากหลายช่วยสร้างความคล่องตัวในการเผชิญกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วช่วยให้องค์กรมีความคิดที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และทำให้เกิดการสร้างนวัตกรรมและความคิดใหม่ๆไม่ว่าเราจะเป็นผู้บริหารหรือพนักงานใน Generation ใดก็ตามจึงควรเปิดใจรับความแตกต่าง รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์และการสร้างองค์กรของเราให้ยั่งยืนต่อไป

 

 

ที่มา

Pros &Cons of a Multi-Generational Workforce - My Careers Future

Multi-generational,diverse, resilient: the key to a thriving workforce of the future - OECD

How does HRbalance the needs and expectations of different generations in the workforce? -Linkedin

Gen Z isunhappy: 5 ways HR can create the EX young workers are craving - HR Executive

Welcomingthe Future of Work with Gen Z - Adecco

4 Tips forManaging a Multigenerational Workforce, From Boomers to Gen Z - Bamboo HR

Tag:
No items found.
Share this post:
ชินภัทร์ สุวรรณพุ่ม

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024