>
Just-in-Time HR: รูปแบบใหม่การบริหารงาน HR หลัง COVID-19
March 14, 2021

Just-in-Time HR: รูปแบบใหม่การบริหารงาน HR หลัง COVID-19

หลัง COVID-19 ระบบงาน HR แบบให้บริการเบ็ดเสร็จ (HR Shared Services) และการทำงานที่อาศัยความชำนาญเฉพาะด้านในรูปแบบ Center of Excellence (COE) ยังคงสอดคล้องกับการทำงานที่มีความไม่แน่นอนสูง ภายใต้สภาวะปกติวิถีใหม่ (New Normal) หรือไม่ > แนวคิดการบริหารงานแบบ Just-In-Time HR เป็นอีกทางเลือก เนื่องจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายองค์กรได้อย่างมีนัยสำคัญโดยไม่กระทบต่อเป้าหมายการบริหารงาน

การบริหารงาน HR ในระยะหลังจะเน้นรวมงานและให้บริการแบบเบ็ดเสร็จผ่าน HR Shared Services รวมทั้งพัฒนาเจ้าหน้าที่ HR ที่มีประสบการณ์ รวมเป็นกลุ่มงานที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน เรียกว่า Center of Excellence (COE) เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของ HR Business Partner ในการกำหนดกลยุทธ์การบริหารงานบุคคลร่วมกับผู้บริหารองค์กร แต่ COVID-19 ได้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินธุรกิจ  HR จำเป็นต้องทบทวนรูปแบบการทำงานดังกล่าวให้สอดคล้องกับการทำงานในสภาวะปกติวิถีใหม่ที่มีความไม่แน่นอนสูง ที่เริ่มมีการพูดถึงกันมากขึ้น คือ การบริหาร HR แบบทันเวลาและส่งมอบบริการตามความจำเป็น หรือ Just-in-Time HR Model

ความหมายของ Just-in-Time มีที่มาจากระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี เป็นการผลิต และส่งมอบวัตถุดิบ สินค้า หรือบริการ โดยใช้ความต้องการของลูกค้ากำหนดปริมาณการผลิตและการใช้วัตถุดิบในเวลาที่ต้องการ ควบคุมวัสดุคงคลังและระยะเวลารอคอยในกระบวนการผลิตให้น้อยที่สุด  เพื่อขจัดความสูญเปล่าจากการผลิตเกินความต้องการ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาต้นทุนและคุณภาพ การนำแนวคิดดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบ Just-In-Time HR ประกอบด้วย

1. การจ้างบุคลากรเมื่อจำเป็น (Just-in-Time Staffing)  เวลาที่องค์กรต้องการจ้างงานชั่วคราวก็สามารถติดต่อ Agency ให้บริการการจ้างงานระยะสั้นตั้งแต่รายชั่วโมง  1-2 วัน  3 – 6 เดือน หรือมากกว่า  1 ปี บริการครอบคลุมการ Matching เพื่อคัดคนที่มีประสบการณ์และทักษะเฉพาะทางที่ตรงกับความต้องการ สามารถทำงานทั้งแบบ On-site และ On-line ตามระยะเวลาที่ยืดหยุ่น รวมทั้งมีการให้ Rating ผลงานที่ผ่านมา ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องคุณภาพการทำงาน

2. การเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการให้รวดเร็วและมีคุณภาพโดย Outsource งานที่ใช้เวลามาก เช่น เช่าระบบ Cloud-based แทนการดูแล Server จัดเก็บข้อมูล ใช้ระบบประกันสุขภาพแทนคลีนิคในสำนักงาน หรือ ให้เงินพนักงานเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ตามความต้องการ (Choose You Own Device – CYOD) แทนการจัดหาให้

3. การทำงานจากบ้าน และหมุนเวียนสลับวันเข้าสำนักงาน จัดที่นั่งแบบไม่ประจำ ช่วยลดค่าเช่าพื้นที่ ที่จอดรถ และค่าสาธารณูปโภค ส่วนการประชุมกลุ่มใหญ่ จะใช้การเช่าห้องประชุมเป็นครั้งคราวเท่าที่จำเป็น

4. การสร้างฐานข้อมูลพนักงานให้ครบถ้วนและเก็บไว้บนระบบ Cloud-based สามารถเรียกใช้ได้ทันที เพื่อวิเคราะห์และจัดทำข้อเสนอสำหรับผู้บริหารตัดสินใจ

5. การกำหนดทีมเฉพาะกิจจากส่วนงานต่างๆ รับผิดชอบในประเด็นสำคัญ สามารถทำงานสอดประสานทั้งองค์กร ให้อำนาจตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันที

6. การกระจายอำนาจงาน HR ให้ส่วนงานตัดสินใจได้รวดเร็วภายใต้กรอบที่ยืดหยุ่น เช่น การจ้างงานในระดับตำแหน่งไม่สูงมาก อนุมัติการเดินทาง เลือกหลักสูตรฝึกอบรมภายนอกเอง เป็นต้น

7. การสร้างโอกาสในการเรียนรู้เมื่อจำเป็น พนักงานสามารถเชื่อมต่อเข้ากับแพลตฟอร์มที่ให้บริการ เช่น Ancile Solutions เพื่อศึกษาขั้นตอนการทำงาน และแนวทางการแก้ปัญหา แพลตฟอร์มดังกล่าวจะมีฟังก์ชั่นช่วยค้นหา ระบบคลังข้อมูล และ Wiki Technology ช่วยเปิดโอกาสการเรียนรู้ในสิ่งที่จำเป็นในเวลาที่ต้องการ

8. การให้รางวัลทันทีเพื่อสร้างแรงจูงใจ พนักงานจะตอบสนองด้านบวกต่อคำชมเชย หรือรางวัลที่ให้โดยทันที และมาโดยไม่คาดฝัน เช่น Recognition Card ส่วนตัวจากผู้บริหาร ได้วันหยุดเพิ่มทันทีหลังจากการทำงานหนัก จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้พนักงานได้เป็นอย่างดี

การปรับเปลี่ยนรูปแบบจาก HR Shared Services และ Center of Excellence เป็นการบริหารแบบ Just-In-Time HR นอกจากจะสอดคล้องกับการทำงานภายใต้สภาวะปกติวิถีใหม่ที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังช่วยให้ผู้บริหารได้เปลี่ยนมุมมอง HR ว่าไม่ได้เป็นแค่หน่วยปฏิบัติงาน (Cost Center) แต่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายให้องค์กรได้อย่างมีนัยสำคัญโดยไม่กระทบเป้าหมายการบริหารงาน รวมทั้งยังเป็นการกระจายอำนาจงาน HR ลงไปที่ระดับหัวหน้างานโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจต่างๆ ภายใต้ข้อจำกัดจากผลกระทบของ COVID-19 ดำเนินต่อเนื่องไปได้โดยไม่ติดขัด

ฐานเศรษฐกิจ Online, 2563.  “Just-in-Time HR รูปแบบใหม่การบริหาร HR หลัง COVID-19", 17 ตุลาคม 2563.

HR Society Magazine, ‘Just-in-Time HR : รูปแบบใหม่การบริหารงาน HR หลัง COVID-19’, ธรรมนิติ. Vol. 18, No 216, หน้า 19 - 22, ธันวาคม 2563

Tag:
No items found.
Share this post:
ดร.ณัฐวุฒิ พงศ์สิริ

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024