>
การเป็นผู้นำทีมงานในการทำงานระยะไกล ภายใต้สถานการณ์ COVID-19
July 28, 2021

การเป็นผู้นำทีมงานในการทำงานระยะไกล ภายใต้สถานการณ์ COVID-19

วลีที่ติดปาก "new normal" มักใช้เพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงของโลกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของ COVID-19 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือการที่พนักงานหลายคนที่จู่ๆก็พบว่าตัวเองต้องทำงานจากที่บ้าน ซึ่งไม่เคยทำงานจากระยะไกลมาก่อนและไม่เคยได้รับการฝึกอบรมหรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำงานจากที่บ้านมาก่อน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ได้สร้างความเครียดให้กับทั้งผู้นำและพนักงาน ในขณะที่ผู้นำในหลายองค์กรได้ดำเนินการในการทำให้การทำงานจากระยะไกลเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่พนักงาน

เราได้มีการประชุมผ่าน Zoom เสร็จอาจจะหลายครั้งต่อวัน อาจจะทำให้เราใช้เวลาไม่กี่วินาทีมานั่งคิดถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกที่แต่เดิมมีการติดต่อแบบตัวต่อตัว แต่ตอนนี้ถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิง และดูเหมือนว่ามันจะเป็นเช่นนั้นไปอีกซักระยะหนึ่ง  ผู้นำขององค์กรต่างๆ อาจจะกำลังเผชิญกับคำถามที่ว่าจะเป็นผู้นำจะบริหารการทำงานจากระยะไกลที่มีประสิทธิภาพได้อย่างไรในสถานการณ์ของ COVID-19

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาแนวโน้มของพนักงานที่ย้ายไปทำงานระยะไกลเพิ่มมากขึ้น ทำให้พนักงานได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการในการทำงานร่วมกับผู้นำทีมงานระยะไกล แนวโน้มนี้เติบโตขึ้นอย่างทวีคูณเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อหลายองค์กรได้เปลี่ยนแปลงนโยบายจากเดิมที่มีพนักงานเพียงไม่กี่คนทำงานระยะไกลมาเป็นให้พนักงานทั้งหมดที่ทำงานจากที่บ้าน

การสำรวจพนักงานจำนวน 2,865 คนในสหรัฐอเมริกาของปี 2020 โดย Global Workplace Analytics พบว่า 67% ของพนักงานทำงานจากบ้าน ซึ่งนั่นเป็นเพราะการระบาดของ COVID-19 ครั้งแรก นอกจากนั้นการสำรวจดังกล่าว รายงานเพิ่มเติมว่ามีเพียง 19% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่ต้องการทำงานจากที่บ้านเต็มเวลาในอนาคต เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ราบรื่นสำหรับหลาย ๆ คน

มีการศึกษาวิจัยก่อนหน้านี้ชี้แจงว่าการทำงานของทีมงานระยะไกลเป็นวิธีการที่มีความท้าทายสำหรับทั้งผู้นำและพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล แต่อย่างไรก็ตามความท้าทายที่เกิดขึ้นอาจเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากสำหรับทั้งผู้นำและพนักงานที่ต้องทำงานระยะไกลอย่างกะทันหัน การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานจากสำนักงาน เป็นสภาพแวดล้อมที่เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน  เป็นไปได้ยากที่จะเตรียมผู้นำให้มีความพร้อมอย่างเพียงพอเพื่อนำไปสู่การทำงานระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้นำต้องการสร้างความมั่นใจและทำให้แน่ใจว่าพนักงานของพวกเขาสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการทำงานจากที่บ้าน เช่น ระบบสนับสนุนอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้และมีความเหมาะสม คอมพิวเตอร์อินเทอร์เฟซ ซึ่งหมายถึง การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ที่ถ่ายโอนข้อมูลจากกันและกันได้ การเข้าถึงฐานข้อมูลที่มีการป้องกันไฟร์วอลล์จากระยะไกลหรือแม้แต่สถานที่เงียบ ๆ เพื่อทำงานที่บ้าน  

นอกจากนั้นยังรวมถึงสิ่งที่ไม่ค่อยเห็นอย่างชัดเจน เช่น การเรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรม Zoom หรือการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อจัดการระดมความคิดเห็นอย่างกะทันหันผ่านระบบเทคโนโลยีการสื่อสาร การดำเนินการประชุมเชิงโต้ตอบเพื่อแก้ไขปัญหา การรักษาวัฒนธรรมองค์กรและการเปิดใช้งานการอภิปรายอย่างไม่เป็นทางการ  การสำรวจที่เกิดขึ้นตั้งแต่การเกิด COVID-19 เปิดเผยว่ามีเพียง 46% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงขั้นพื้นฐานของเทคโนโลยีการทำงานร่วมกัน 64% ไม่มีนโยบายการทำงานระยะไกลและมีเพียง 41% เท่านั้นที่เข้าใจบทบาทและลำดับความสำคัญของข้อมูล สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความตึงเครียดครั้งใหญ่ในองค์กรและผู้จัดการที่อาจมีประสบการณ์น้อยเกี่ยวกับการจัดการระบบการทำงานระยะไกลของพนักงาน

ด้วยเหตุผลหลายประการในการจัดการทีมงานทำงานระยะไกลนั้นแตกต่างจากการจัดการพนักงานในสำนักงานแบบตัวต่อตัว ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิม ในขณะที่การทำงานจากที่บ้านก็มีประโยชน์บางอย่างในการทำงาน เช่น ความสมดุลในชีวิตการทำงานที่ดีขึ้น โดยการทำงานจากบ้านสามารถใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสำนักงาน  นอกจากนี้ยังมีความท้าทายที่พนักงานทำงานจากที่บ้านจะต้องเผชิญ นั่นคือพนักงานอาจจะรู้สึกว่าระดับความไว้วางใจลดลง  หรือรู้สึกว่าการสนับสนุนจากผู้จัดการและองค์กรลดลง อันเป็นผลมาจากการทำงานระยะไกล ยิ่งไปกว่านั้น ในเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรที่จะถูกสร้างขึ้นโดยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น  การเสริมสร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมองค์กร พบได้จากการมองเห็นป้ายหรือสัญลักษณ์หรือสิ่งประดิษฐ์ของสำนักงาน  แต่การทำงานจากที่บ้านย่อมทำให้การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานลดน้อยลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อค่านิยม ความเชื่อและบรรทัดฐานของวัฒนธรรมองค์กร

ในขณะที่มีเพียงไม่กี่องค์กรที่เตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้จัดการในการรับมือกับการทำงานระยะไกล มีงานวิจัยเรื่องทีมงานทำงานระยะไกลที่ทำในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกในเรื่องวิธีการของการเป็นผู้นำทีมงานทำงานระยะไกลที่ช่วยในการจัดระเบียบ สร้างแรงกระตุ้นและสร้างระบบสนับสนุนและวัฒนธรรมที่เข้มแข็งในการบริหารงานพนักงานทำงานระยะไกลให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายคือเรื่องวัฒนธรรมองค์กรของทีมงานในรูปแบบ new normal องค์กรและผู้นำรู้ถึงความสำคัญอย่างยิ่งของวัฒนธรรมองค์กร มันเปรียบเสมือนซอฟต์แวร์ที่กำหนดความเชื่อต่างๆ ขององค์กรเกี่ยวกับวิธีการทำงานของพนักงาน วัฒนธรรมองค์กรสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ผู้นำได้กำหนดเป้าหมายส่วนตัวของพนักงานในทีมให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรผ่านนโยบายและการสนับสนุนขององค์กรและกระบวนการสื่อสารที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ  รวมทั้งพฤติกรรมของผู้นำด้วย

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนไป การสร้างวัฒนธรรมการทำงานด้วยการแบ่งปันค่านิยมและความเชื่อกลายเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งขึ้นสำหรับผู้นำ ในขณะที่โลกของการทำงานเปลี่ยนแปลงไป  ทำให้เกิดความจำเป็นที่จะต้องมีผู้นำเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของวัฒนธรรมองค์กรไม่ให้เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตามการดำเนินการและกิจกรรมต่างๆ พนักงานต้องทำตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อต่ออายุวัฒนธรรมของทีมงาน ค่านิยม ความเชื่อและบรรทัดฐานโดยปรับให้เข้ากับ new normal ความสำคัญของการต่ออายุนี้เพื่อรักษาวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพนักงานที่ทำงานจากที่บ้านเพราะความแข็งแกร่งของวัฒนธรรมสามารถช่วยทดแทนการขาดการสื่อสารกับพนักงานคนอื่นและเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการสื่อสารที่แข็งแกร่งภายในทีมงาน

หลังจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ได้สงบลง พนักงานจะสามารถกลับเข้าทำงานในสำนักงานได้เหมือนเดิม แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่องค์กรจำนวนมาก  จะยังคงมีพนักงานจำนวนมากที่ทำงานจากที่บ้านในอนาคต  ผู้นำต้องสามารถตรวจสอบได้ว่าพนักงานได้ใช้เวลาในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความไว้วางใจ เน้นความรับผิดชอบในงาน นำเสนอเป้าหมายการทำงานและรูปแบบของงานที่ชัดเจนเพื่อให้พนักงานในทีมทุกคนเข้าใจ หากพนักงานทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่พวกเขาพยายามทำให้สำเร็จ  พวกเขาจะเข้าใจถึงความสำคัญและสร้างให้พนักงานในทีมแต่ละคนมีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสที่ดีในการทำงานจากที่บ้าน นอกจากนั้นผู้จัดการยังเพิ่มความเชี่ยวชาญในทักษะความเป็นผู้นำที่ทำงานได้ดีในการตั้งทีมงานทำงานระยะไกล

ผู้นำจะต้องมีความสนใจและใส่ใจกับพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่มุมด้านสุขภาพจิตของการอยู่ในทีมการทำงานระยะไกล มีคำกล่าวว่า “ไม่มีใครสนใจสิ่งที่คุณรู้จนกว่าพวกเขาจะรู้ว่าคุณใส่ใจ” การที่ไม่ได้ทำงานในสภาพแวดล้อมแบบตัวต่อตัวในสำนักงาน  แต่เปลี่ยนเป็นการทำงานแบบออนไลน์ ทำให้ยากที่จะทำให้พนักงานในทีมได้รู้สึกและสัมผัสได้ว่าผู้นำมีความใส่ใจทางด้านจิตใจของพวกเขา สิ่งที่สำคัญคือต้องทำโดยใช้เครื่องมือและเทคนิคการสื่อสารทั้งหมด เมื่อพนักงานมีปัญหา พวกเขาต้องการความสนใจจากผู้นำ ผู้นำต้องใช้เวลาเพื่อทำความเข้าใจกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดจากการทำงานนอกสำนักงาน ผู้นำสามารถสร้างวัฒนธรรมองค์กรขึ้นมาใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของพนักงานกลุ่มที่ทำงานจากที่บ้านในปัจจุบันและอนาคต

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ที่มา :  Sean A. Newman, Robert C. Ford. (2021). Five Steps to Leading Your Team in the Virtual COVID-19 Workplace. Organizational Dynamics. 50(1), 1-11.

Tag:
No items found.
Share this post:
ผศ.รัชฎาทิพย์ อุปถัมภ์ประชา

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024