>
มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ต่อโรคอุบัติใหม่
August 2, 2021

มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ต่อโรคอุบัติใหม่

“แล้วเราก็จะผ่านมันไปด้วยกัน” คำ ๆ นี้ให้กำลังใจกัน ในวันที่เรายังไม่รู้หนทางข้างหน้า จะอีกยาวไกลขนาดไหน นับตั้งแต่เรารู้จักเจ้าโรคโควิด 19 เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ ซึ่งแน่นอนว่า จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น แข็งแกร่งขึ้น อันนี้น่าจะจริงที่สุด วันนี้ วันที่เราเริ่มมีวัคซีน ทยอยแจกให้กับคนทั่วโลกได้ฉีดกัน แต่ก็อยากให้เชื้อโรคร้ายนี้ เป็นที่จดจำของเรา ไปอีกหลายชั่วอายุคน ว่ามันคือโรคอุบัติใหม่ รู้สึกชอบคำนี้จัง คำศัพท์นี้ ฟังแล้วดูเหมือนว่าไม่มีใครที่จะสามารถเอาชนะหรือหาทางแก้ไขได้ แต่โชคดีอย่างที่ทีมวิจัยทางการแพทย์ ทำงานกันอย่างแข็งขัน เพื่อที่จะค้นให้เจอให้ได้ว่า เจ้าโรคโควิด 19 นี้มีที่มาจากแหล่งใด เพื่อหาทางป้องกัน

ภาพข่าวในอดีต ปรากฎขี้นมา เมื่อครั้งที่คนจีน เริ่มทยอยกันไปที่โรงพยาบาล และต่อคิวกันยาวเหยียด เพื่อขอตรวจหาเชื้อว่าตัวเองเป็นหรือไม่ จริง ๆ พอเหตุการณ์ผ่านมา ทำให้เราเรียนรู้ว่า การไปแออัดกันในโรงพยาบาลช่วงนั้น คือการแพร่เชื้อดี ๆ นี่เอง

ไหนจะภาพข่าวที่ประเทศจีน ที่ในตัวเมืองเริ่มเป็นเมืองร้าง ที่นักศึกษาไทย ไปขนของในร้านค้ามาเพื่อประทังชีวิต แต่พอเดินเข้าไปในร้านก็เหมือนเมืองร้างไปเลย นาทีนั้นถ้าเราเป็นคนไทยในต่างแดน รู้สึกอยากกลับบ้านสุดหัวใจ ยังไงก็อยู่บ้าน กับพ่อแม่เราสบายใจกว่ากันเยอะเลย ยิ่งในสถานการณ์ที่ยังไม่รู้หนทางแก้ ยิ่งเป็นกังวล และต้องการกำลังใจอย่างมาก

หรือแม้แต่กรณีที่เรารับผีน้อยกลับบ้าน แล้วต้องกักตัว แยกออกจากครอบครัว เพื่อให้พ้นระยะการแพร่กระจายโรค ถึงกลับมาแล้ว ก็ยังไม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดพ่อแม่ พอผ่านระยะเวลากักตัวไปได้ อ้อมกอดแรกนั้นต้องแลกมาด้วยน้ำตาทุกครั้งมันทั้งโหยหา คิดถึง และต้องใช้ความอดทน และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในห้วงเวลานั้นมากๆ

คนที่ยังมีงานประจำทำ ก็อยู่นิ่งไม่ได้ต้องแสดงความสามารถให้เจ้านายหรือเจ้าของบริษัทเห็นว่า ตัวเองเป็นคนที่มีคุณภาพ เป็นคนที่ต้องอยู่ต่อไปหากต้องมีการคัดเลือก ในภาวะนี้ทุกคนต้องปรับความคิด ทัศนคติรวมไปถึงวิธีการทำงานใหม่ ทั้งคนที่ทำงานประจำและอาชีพอิสระ เพราะมีหลายเรื่องที่ทำแบบเดิม ๆ ไม่ได้แล้ว หรือทำได้แต่ผลตอบรับน้อยลง ดังนั้นเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยพัฒนาการทำงานของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ต้องศึกษาและฝึกฝนกันทันทีในเวลานี้

ตัวอย่างปัญหาของคนทำงานส่วนใหญ่ที่ทำให้เสียเวลาคงหนีไม่พ้นเรื่องการค้นหาไฟล์งานที่เก็บไว้ในโน๊ตบุ๊ค การอ่านหรือหาอีเมล และล่าสุดไลน์ที่เป็นการสื่อสารกัน ทั้งแบบ ตัวต่อตัว หรือเป็นกลุ่ม ยิ่งถ้าเป็นระดับหัวหน้างาน หรือ Manager คงไม่พ้นงานหลายบทบาท ในกลุ่มต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นมา และบางครั้ง การสื่อสารแบบเร่งด่วน ด้วยข้อความสั้นๆ ง่ายๆ บางครั้งทำให้เกิดการเข้าใจผิดมาหลายต่อหลายครั้ง

วิธีการเก็บไฟล์ที่จะทำให้หาง่าย คือการตั้งชื่อไฟล์ และโฟลเดอร์งานให้ชัดเจน นอกจากนั้น อาจจะมีโฟลเดอร์ย่อย ๆ อีกหลายชั้น เพื่อซ้อนให้ละเอียด แล้วจะได้แยกเก็บงานให้ละเอียดมากขึ้น ปัญหาการเก็บงาน ยังไม่ยากเท่าการตั้งชื่อไฟล์งานแล้วหาไม่เจอหลายครั้งหากเอกสารไม่สำคัญมากนัก เราอาจทำหัวท้ายเรื่องเพื่อเป็นโน้ต สำหรับชื่อไฟล์ในการเก็บและหางานในครั้งต่อไป

ส่วนเรื่องอีเมล ก็เช่นกัน นอกจากจะต้องแยกเก็บเป็นโฟลเดอร์ และเป็นโฟลเดอร์ย่อย แล้วยังต้องทำเครื่องหมายการอ่านเพื่อแยกแยะอีเมล ว่าได้อ่านแล้วหรือยังไม่อ่าน เมื่ออ่านอีเมล ฉบับใดเรียบร้อยแล้ว  ควรแจ้งกลับไปยังผู้ส่งว่าท่านได้รับทราบเรื่องที่แจ้งนั้นมาเรียบร้อยแล้ว

นี่ยังไม่นับรวมการอัพเดตเวอร์ชั่น Microsoft office ที่ทำให้เราต้องศึกษาฟังก์ชั่น การใช้งานเพิ่มเติม  การใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูปพวกนี้ อย่างเช่น Microsoft excel ถ้ายังไม่จำเป็นที่จะต้องพัฒนาและเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัวในขณะที่เราต้องใช้ทำงาน และสูตรและเทคนิคลัดที่สำคัญๆ ก็ควรอย่างยิ่งที่เราจะทราบไว้ เพื่อให้ทำงานหรือใช้เทคนิคลัด ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น  

ส่วนการนำเสนองานหรือข้อมูล หลายครั้งที่มีการรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียด แต่เมื่อนำข้อมูลไปเสนองาน กลับทำให้หลงประเด็นหรือนำเสนอข้อมูลที่ต้องการสื่อออกไป อย่างไม่ได้ตรงประเด็นกับที่ผู้ฟังรับข้อมูลเข้าไป หรือบางครั้งสื่อออกไปไม่ครบถ้วนทำให้ข้อมูลที่นำเสนอไป อาจหลงประเด็นไปได้

ดังนั้น การนำเสนอข้อมูลจะได้ตรงประเด็นหรือไม่ก็คือต้องกำหนด เฟรมเวิร์ก โดยการร่างแกนแนวตั้งและแกนแนวนอน เพื่อให้กำหนดทิศทางของข้อมูลที่จะนำเสนอให้อยู่ภายใต้กรอบความคิดที่ถูกกำหนดไว้แล้ว เฟรมเวิร์กหลัก ๆ ที่เราควรเรียนรู้ ก็มีอยู่สามตัวอย่าง เช่น เฟรมเวิร์ก MECE, เฟรมเวิร์ก พีระมิด และ เฟรมเวิร์ก สำหรับการแก้ไขปัญหา ส่วนรายละเอียดของแต่ละเรื่องนั้นอาจหาศึกษาเพิ่มเติมได้

สิ่งที่ได้เรียนรู้  จากการปรับตัวครั้งนี้ หลาย ๆ คนล้วนได้รับผลกระทบถ้วนหน้า

มองสิ่งที่เป็นรูปธรรมก่อน คือการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่นนักเรียน ต้องเรียนออนไลน์ คุณครูต้องผลิดสื่อการเรียนการสอนให้ทันกับความต้องการ

หรือแม้กระทั่งการปรับตัวทำงานที่บ้าน ใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยี เพื่อการสื่อสาร การประชุมทางไกล  การปรับตัวครั้งนี้ ทำให้เราต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อีกหลาย ๆ เรื่องในเวลาเดียวกัน

วิชาการประเมินความเสี่ยง ได้ถูกนำมาปรับใช้ ในหลาย ๆ องค์กร หากเกิดกรณีที่องค์กรใด เกิดมีผู้ติดเชื้อเกิดขึ้น จะเตรียมรับมืออย่างไร หรือแม้กระทั่ง บางแห่งต้องปรับผังที่นั่งทำงานกันใหม่ เพื่อไม่ให้แออัดยัดเยียด กันเกินไป หรือแยกกันมาทำงาน ส่วนหนึ่งทำงานที่บ้าน (WFH) หรือสลับวันกันมาทำงาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ งานก็ต้องทำ โรคก็ต้องสู้ คนยุคใหม่นี่ต้องสมบุกสมบันกันจริง ๆ

สิ่งหนึ่งที่เห็นเด่นชัดเลย คือการทำงานแข่งกับเวลา และการรายงานผล การวิเคราะห์ และการจัดการข้อมูล เพื่อนำเสนอข้อมูลให้รัดกุม สรุปและเข้าใจง่ายภายในระยะเวลาอันสั้น เพื่อเป็นการประหยัดเวลา จะเห็นว่า การประชุมออนไลน์ เราใช้เวลาน้อยมาก ประชุมกันไม่นานก็จบ เพราะหลายท่าน ไม่คุ้นต่อการพูดต่อหน้ากล้อง ไม่เช่นนั้นคงหันไปทำอาชีพเป็นนักแสดงกันได้ แรก ๆ ก็เคอะเชิน ยังไม่ชินจึงรีบจบสรุปการประชุมอย่างรวดเร็วต่างจากการเข้าห้องประชุมเป็นไหน ๆ

หลายท่านที่ทำงานกันอยู่ แรก ๆ ปรับตัวกันวุ่นวาย ไหนจะต้องทำงานที่บ้าน ต้องจัดมุมในบ้านใหม่ เพื่อให้พร้อมเป็นมุมทำงาน เพราะอาจจะมีการประชุมร่วมกัน บางคนแต่งกายครึ่งท่อน เพื่อความสุภาพในการประชุม เป็นไอเดียที่หลายคนคิดและได้ทำจริง ๆ

ใครที่สนใจพวกเทคโนโลยีสื่อสาร หรือมีหัวด้าน IT ก็จะเป็น Encyclopedia ให้เพื่อน ๆ ได้ ส่วนพวกที่ Lo-tech ก็ต้องปรับตัวกันแรงหน่อย ต้องเรียนรู้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน

ช่วงแรก ๆ ก็จะหงุดหงิดหน่อย แต่พอปรับตัวได้แล้ว ทุกอย่างก็จะดูง่ายขึ้น เพราะควบคุมได้

แม้แต่นักเรียนเอง ก็ยังติดใจกับการเรียนออนไลน์ เพราะคุณครูไม่เห็นนักเรียน ไม่รู้ว่านักเรียนทำอะไรในขณะที่คุณครูสอน จะเห็นก็แค่ตอนที่ขานชื่อเช็คชื่อเข้าเรียน นักเรียนได้ทำกิจกรรมในขณะที่เรียนไปด้วย คือการเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อน การดูหนัง ดู YouTube ในเวลาเรียน หรือได้ค้นคว้าหาคำตอบใน Google เพื่อแสดงความตั้งใจเรียน เมื่อคุณครูถาม

อีกเรื่องที่ต้องระวังอย่างมากคือการสื่อสารในเวลาเร่งด่วน เพราะจะทำให้ได้ข้อมูลที่ผิดพลาดไป และยิ่งในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานกับโรคระบาดด้วยแล้วความเสียหาย ประเมินค่าไม่ได้ หรือการปกปิดข้อมูลจริง แล้วทำให้เกิดการแพร่เชื้อ คนกลุ่มนี้ หากพลาดโดยไม่ตั้งใจ กับคนที่ตั้งใจ ผลลัพธ์ต่างกัน เพราะโดนรุมประณามด้วยสื่อโซเชียลแบบนอนไม่หลับ เครียดขนาดยานอนหลับก็ยังไม่เห็นผล ก็มีตัวอย่างมาแล้วหลายราย

เรื่องการนำเสนองาน ก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับหลายคน จะนำเสนองานอย่างไร ให้แจ้งเกิดได้ อันนี้สำคัญมาก มีส่วนรายละเอียดยิบย่อย มากมายที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ ตั้งแต่การเลือกสีสไลด์ การเลือกรูปแบบตัวหนังสือ การใช้รูปภาพประกอบ การใช้ไอคอน แทนตัวอักษร ไปจนถึงการเลือกนำเสนอข้อเท็จจริง มาปรับใช้ และต้องระวังในส่วนของข้อมูลที่เป็นในเชิงความคิดเห็น  

การนำเสนอข้อมูลที่ดี ต้องวางกรอบแนวคิดว่าจะต้องการนำเสนอข้อมูล ในเรื่องใดบ้าง และต้องการตอบคำถามในเรื่องใดบ้าง แน่นอนว่าเราคงเคยเห็นข้อมูลที่นำเสนอในรูปแบบของแแผนภูมิรูปภาพ หลายครั้งที่นำเสนอข้อมูลในลักษณะนี้แล้วเกิดความสับสน อันเนื่องมาจากการจัดลำดับ ความสำคัญ และการจัดเรียงลำดับข้อมูล ความสำคัญต้องสอดคล้องกัน ถึงจะทำให้การนำเสนอข้อมูลรื่นไหล ไม่หยุดชะงักไป  ภาพอินโฟกราฟฟิกจึงเป็นเริ่มมามีบทบาทสำคัญในการนำเสนอ และสื่อสารเพื่อให้คนเข้าใจง่ายขึ้น

ส่วนสิ่งที่เป็นนามธรรม เราจับต้องได้ ด้วยความรู้สึกเช่น การทำตู้แบ่งปัน ทำให้เห็นว่าในวิกฤตมีโอกาส และคนไทยเราไม่แห้งแล้งน้ำใจ บางคนทำกับข้าวไปแจก ๆ ได้ บางวัน ก็ยังดี บางคนให้คนชรา อายุเกิน 60 ปี หญิงมีครรภ์ และเด็กทานฟรี ไม่คิดเงิน บางร้านเปิดให้ทานฟรี เฉพาะวันจันทร์ เป็นต้น

ในความมีน้ำใจ ก็เห็นความแล้งน้ำใจ มีความเห็นแก่ตัว เอาเปรียบ เหตุการณ์นี้สอนให้เรามีมุมมองในเรื่องต่าง ๆ เปลี่ยนไป เหรียญมีสองด้าน ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน มีขึ้นก็ต้องมีลง โรคอุบัติใหม่ทำให้เรามองเห็นโลกต่างไปจากเดิม และไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป โลกและโรคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ใหม่ และพร้อมต่อการปรับตัวตามให้ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อธำรงค์เผ่าพันธุ์มนุษย์ชาติไว้ในโลกนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้มนุษย์เราเจ็บป่วยล้มตายเป็นจำนวนมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลกมนุษย์

ขอกล่าวทิ้งท้าย เป็นคำชมเชย ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ของไทยทุก ๆ ท่านตั้งแต่อาสาสมัคร อสม.ในชุมชน บุคลการในสถานพยาบาลทุกแห่ง ไปจนถึงผู้ทรงคุณวุฒิในวงการแพทย์ไทย แม้ท่านจะอายุมากหรือเกษียณอายุไปแล้วก็ตาม ท่านคือบุคลากรที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ในห้วงเวลาที่ทั่วโลกเจอวิกฤตใหญ่ในครั้งนี้ ขอบคุณทุกหัวใจที่เสียสละ เพื่อมวลมนุษย์ ท่านควรค่าอย่างยิ่งแก่การเคารพและให้เกียรติอย่างสูง ที่เสียสละร่างกายและจิตใจเสี่ยงที่สุดเพื่อพวกเราทุกคน “นักรบเสื้อกราวน์” คำนี้จะก้องอยู่ในหัวใจอีกนาน

ด้วยความเคารพ และจิตคาราวะต่อบทเรียนอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

ต้นไม้ของแง่งคิด Asiabooks

Tag:
No items found.
Share this post:
KHON

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024