>
การเตรียมตัว Re-Opening Office เพื่อการสร้าง Hybrid Workplace
April 24, 2022

การเตรียมตัว Re-Opening Office เพื่อการสร้าง Hybrid Workplace

ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 คือช่วงเวลาที่หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มส่งสัญญาณบอกกับบรรดาพนักงานในองค์กรแล้วว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการเตรียมเปิดสำนักงานใหม่อีกครั้ง หรือเรามักเรียกกันติดปากว่า Re-Opening Office ซึ่งหลักคิดหนึ่งที่ HR จะต้องย้ำเอาไว้ในใจเสมอก็คือ
“คนปลอดภัยก่อนงานจึงจะดำเนินต่อได้”

 

หรือหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับวลีดังกล่าวจากช่วงวิกฤติน้ำท่วมประเทศไทยเมื่อปี2554 ที่หลาย ๆองค์กรต้องออกแบบการดูแลพนักงานในภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นอย่าฉับพลัน ซึ่งคล้ายกับภาวะวิกฤติโรคระบาดในครั้งนี้เช่นกัน

ดังนั้นด้วยการเริ่มต้นจากหลักการ humanfirst หรือ human centric ก็จะสามารถทำให้HR ช่วยผู้บริหารในการเริ่มออกแบบและตัดสินใจในการสร้างสภาพการทำงานในรูปแบบใหม่ที่มีความยืดหยุ่น (flexible) ระยะไกล (remote)และผสมผสานได้ (hybrid)อย่างลงตัว

 

Gartner ได้เคยทำแบบสำรวจความพร้อมในการสร้างHybrid Workplace เอาไว้ตั้งแต่ต้นปี 2021 และพบว่ากว่า 94% ขององค์กรที่ได้ทำการสำรวจล้วนตอบว่าในอนาคตตัวเองจะเตรียมเข้าสู่การทำงานในรูปแบบHybrid และ Flexible Work ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจ Work Trend Index ของ Microsoft ที่พบว่า 73% ของพนักงานมีความต้องการที่จะเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้ยืดหยุ่นไปในทางremote work มากขึ้น อย่างไรก็ดีผลสำรวจเดียวกันยังพบอีกว่า มากกว่า 65% ต้องการความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานแบบเดิมเหมือนทำงานในบริเวณเดียวกันดังนั้นจุดนี้จึงเป็นความท้าทายอย่างมากในการบริหารงานบุคคลในอนาคตนั่นก็เพราะประสบการณ์และความคาดหวังของพนักงานจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือเลย

 

วัคซีนไม่ใช่คำตอบของการ Re-Opening

แม้ว่าปัจจุบันจำนวนการฉีดวัคซีนสองเข็มของประเทศไทยจะขยับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม อัตราการตรวจพบผู้ติดเชื้อก็ยังคงไม่มีแนวโน้มชัดเจนว่าจะลดลง ดังนั้นการที่บางองค์กรได้พิจารณาแล้วว่าพนักงานของตัวเองได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วแต่ก็ยังจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อผ่านการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะหรือแม้กระทั่งการติดเชื้อจากบุคคลภายนอกอยู่  บางองค์กรจึงเลือกที่จะใช้กระบวนการที่เข้มงวดขึ้นเช่นการให้พนักงานทำ vaccine passport บันทึกการได้รับวัคซีนเอาไว้ก่อนเข้าสู่สำนักงานรวมถึงแจกชุดตรวจ ATK แบบน้ำลายเพื่อความสะดวกให้การตรวจเชื้อก่อนและหลังเข้ามาปฏิบัติงาน หรือในขณะที่บางองค์กรก็ใช้วิธีการแบ่งโซนของการเข้าถึงตัวสำนักงานออกเป็นเขตๆ เพื่อกันการแพร่กระจายจากบุคคลภายนอกเข้าสู่ตัวอาคารหลักอย่างไรก็ตามกระบวนการเช่นนี้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็ก กลาง หรือ startup เนื่องจากต้องใช้ทรัพยากรบุคคลในการทำขั้นตอนดังกล่าวจำนวนมากแม้ภาครัฐจะออกมาประกาศช่วยเหลือให้เงินค่าใช้จ่ายที่ซื้อชุดตรวจ ATK สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ก็ตาม

 

สร้างบรรยากาศการทำงานที่ “ปลอดภัย”อย่างไรดี?

 1.     การสื่อสารล่วงหน้าเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด หากองค์กรของท่านมีแผนที่จะเตรียมการเปิดออฟฟิศอีกครั้งสิ่งสำคัญแรกสุดคือ เริ่มทำการสื่อสารเป็นช่วง ๆ เช่น อาจมีการทำ survey ความรู้สึกของพนักงานหรือความไม่สบายใจที่เกิดขึ้น โดยอาจใช้หัวหน้าทีมเป็นผู้สื่อสารรายทีมแล้วรวบรวมข้อมูลที่ได้นำส่งให้ HR เพื่อเตรียมการจัดการสื่อสารต่อไปทั้งนี้การสื่อสารควรทำเป็นระยะ มีการเตรียมความพร้อมให้ทุกหน่วยงานได้ข้อมูลที่ครบถ้วนตรงกันหรือหากองค์กรใดมีการดำเนินงานแบบ BCP (Business Continuity Plan) ก็สามารถให้เป็นศูนย์กลางของการสื่อสารได้เช่นกันที่ต้องทำการสื่อสารล่วงหน้าเพราะพนักงานแต่ละคนอาจมีข้อจำกัดในการเดินทางที่แตกต่างกัน

2.     กำหนดกลยุทธ์การทำงานตอนRe-Opening ช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีของแต่ละบริษัทที่จะเตรียมนำแผนการปฏิบัติงานแบบhybrid เข้ามาใช้ หลายที่เริ่มทำแบบเป็นช่วง เช่นช่วงแรกทีมที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องเข้าสถานที่ทำงานเลยก็อาจจะเป็น full-remoteหรือทำงานทางไกล 100% ทีมที่มีความจำเป็นค่อยๆ ทยอยเข้าที่ 30-50% ของ capacity ของสถานที่แล้วจึงทยอยขยับตัวเลขตามความปลอดภัยในแต่ละช่วงสถานการณ์ อีกทางเลือกหนึ่งคือการจ้างพนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดเป็นสัญญาระยะสั้นเพื่อเข้ามาตรวจสอบสภาพการทำงานว่ามีความปลอดภัย

3.     ออกแบบเครื่องมือการทำงานที่มีประสิทธิภาพพนักงานหลายคนได้เริ่มมีการปรับตัวให้ใช้เครื่องมือที่ตนเองไม่เคยใช้มาก่อนและพบว่ามีประสิทธิภาพในทางที่ควร เช่น การประชุมระยะไกลผ่าน videoconference หรือในขณะที่บางหน่วยงานเริ่มใช้การสื่อสารแบบ writtencommunication ที่สะดวกและสามารถเข้าถึงได้ง่ายอย่าง Confluenceหรือ Notion ซึ่งจะสามารถทำให้ไม่ต้องการเกิดการสื่อสารเป็นทอดๆ และเสียเวลาโดยใช้เหตุ ความสำคัญอีกประการของการออกแบบเครื่องมือในการทำงานคือไม่ว่าพนักงานจะอยู่ช่วงเวลาไหน หรือสถานที่ใด ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการโดยไม่จำเป็นต้องนัดประชุมเล็ก ๆ น้อย ๆ จนทำให้พนักงานเกิดการ burnt out จากเวลางานที่เกินเข้ามาในเวลาส่วนตัว

 

ทั้งนี้ หากองค์กรใดที่สนใจจะเริ่มทำremote work ที่จริงจัง ขอแนะนำให้ศึกษาจากบริษัทGitlab ซึ่งมีการเขียน Remote work playbook ที่ละเอียดมากให้สามารถหยิบนำไปใช้ได้[eBook] The RemotePlaybook (gitlab.com)

 

อ้างอิง

HybridWorkforce Champions Succeed (gartner.com)

ReopeningYour Workplace (shrm.org)

How toTalk to Employees About Reopening (hbr.org)

ครม.ลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า เอกชนซื้อชุดตรวจ ATK ให้พนักงาน (thaipbs.or.th)

TheNext Great Disruption Is Hybrid Work—Are We Ready? (microsoft.com)

Tag:
No items found.
Share this post:
ภคภัค สังขะสุนทร

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024