>
The Future Trend of HRM in Globalization
November 12, 2020

The Future Trend of HRM in Globalization

บทบาท หน้าที่ และภารกิจ ของ HRM แห่งอนาคต แนวทางการบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงกลยุทธ์แห่งอนาคตนั้นจะให้ความสำคัญกับ Talent มากเนื่องจากกระแสแห่งโลกข้อมูล ข่าวสารและเทคโนโลยี ที่ไร้พรหมแดนที่ทำให้ธุรกิจนั้นมีการแข่งขันที่สูงและมีธุรกิจข้ามชาติเกิดขึ้นทั่วโลก การที่องค์การจะมีโอกาสในการแข่งขันที่โดดเด่นนั้นจะต้องสร้างความแตกต่างและนวัตกรรมใหม่อยู่ตลอดเวลา สิ่งที่จะทำให้องค์การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ นั้นจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจะต้องสร้างออกมาจากความสามารถของมนุษย์ที่มีความเก่งที่ไม่สามารถเลียนแบบหรือทดแทนได้ (Talent) และจุดนี้เองเป็นกุญแจที่มีความสำคัญต่อการอยู่รอดขององค์การท่ามกลางการแข่งขันที่ไร้พรหมแดน และองค์การใดที่มีอัตราส่วนของทรัพยากรมนุษย์ที่เป็น Talent ยิ่งมากเท่าไรก็จะทำให้องค์การนั้นมีความโดดเด่นและเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงอันเป็นที่มาของผลตอบแทนจากการได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจที่คืนกลับมาให้กับองค์การอย่างมหาศาล ดังนั้นการบริหารทรัพยากรมนุษย์แห่งอนาคตนั้นบทบาทหน้าที่ที่สำคัญของฝ่าย HRM ก็คือการที่องค์การสามารถดึงดูดกลุ่มคนที่เป็น Talent มาอยู่กับองค์การให้ได้มากที่สุดและพัฒนาให้กลุ่มคนเหล่านี้ให้มี KSAO ให้ทันต่อความต้องการของการแข่งขันท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา สร้างกลุ่ม Talent ที่ไม่มีองค์การใดสามารถที่จะเลียนแบบและทดแทนได้อีกทั้งสร้าง Commitment ให้กลุ่ม Talent นี้คงอยู่กับองค์การและทุ่มเทศักยภาพที่จะทำงานให้กับองค์การอย่างเต็มความสามารถ

ความแตกต่างของบทบาท HRM ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ปัจจุบันนี้บทบาทของ HRM ได้เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนที่งาน HRM นั้นเป็นเพียงงาน Routine ที่เริ่มจากการการสรรหา ดูแลรักษา พัฒนา จนกระทั่งคนออกจากงาน แต่ในปัจจุบันสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป หน้าที่ของ HRM นั้นเปลี่ยนจากงานประจำมามีบทบาทสำคัญในการวางกลยุทธ์เป็น Partner ของธุรกิจที่จะต้องเคียงคู่ไปกับ CEO ในองค์การในการวางแผนกลยุทธ์ต่างๆในการขับเคลื่อนองค์การในขณะเดียวกัน อีกบทบาทหนึ่งของ HR ก็คือจะต้องประสานกับผู้บริหารระดับกลางที่เป็น Line Manager ในการที่จะแปลงกลยุทธ์ ขององค์การออกมาเป็นการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์การและสร้างรูปแบบการทำงานที่ Fit สำหรับองค์การ ในขณะเดียวกันนั้น HR ก็ยังจะต้องรักษาการเป็นตัวแทนของพนักงานในองค์การในการที่จะปกป้องผลประโยชน์และดูแลรับรู้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับพนักงานในองค์การ

จะเห็นได้ว่าขอบข่ายของในงานของ HR ขึ้นขยายมากขึ้นและมีบทบาทเป็นผู้ที่ต้องประสานทุกส่วนหลักขององค์การให้ทำงานร่วมกันบูรณาการการทำงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็จะต้องเป็นหน่วยงานในการสรรหาคัดเลือกกลุ่มคนที่เหมาะสมเข้ามาทำงาน Support ในส่วนของการทำงานของ Line Manager โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสรรหาเพื่อให้ได้มาซึ่งกลุ่ม Talent ให้อัตราส่วนของแรงงานกลุ่มนี้มีอยู่ในองค์การให้มากที่สุดซึ่งหมายถึง ยิ่งมีคนกลุ่มนี้มากเท่าไรก็ยิ่งมีความได้เปรียบและเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงและริเริ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ มากขึ้นเท่านั้น การที่องค์การจะเป็นที่ดึงดูดของบรรดากลุ่ม Talent ได้นั้นก็เป็นหน้าที่ของ HR ในการวางกลยุทธ์การสรรหาคัดเลือกที่ดึงดูด และก็เป็นหน้าที่ของ HR เช่นกันที่จะต้องพัฒนากลุ่มคนเหล่านี้ให้มีความรู้ความสามารถที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อพัฒนาขึ้นมาแล้วก็จะต้องดูแลรักษาให้กลุ่มTalent อยู่กับองค์การอย่างมี Commitment สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ HR จะต้องพัฒนาคนในองค์การที่มีอยู่ให้เป็นกลุ่ม Talent ที่องค์การพัฒนาเหมือนเพชรที่องค์การเจียรนัยขึ้นมาเอง ไม่ใช่เพียงแต่สรรหามาจากกลุ่มคนภายนอกเท่านั้น

ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า คำจำกัดความของทรัพยากรมนุษย์นั้นก็เปลี่ยนแปลงไปตามความสำคัญที่มนุษย์นั้นเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้องค์การเป็นผู้นำแห่งความได้เปรียบทางการแข่งขัน

คำจำกัดความของ HRM ที่เปลี่ยนไปและคุณค่าที่เพิ่มขึ้น

จากเดิมในอดีตที่เรามองการการบริหารทรัพยากรมนุษย์ว่ามนุษย์เป็นต้นทุนชนิดหนึ่ง เป็นค่าใช้จ่ายที่องค์การควรที่จะประหยัดในการจัดสรรทรัพยากรให้ แต่ในปัจจุบันจนถึงอนาคตนั้นทำให้องค์การจะต้องเปลี่ยนมุมมองจากการที่มองว่าคนในองค์การคือค่าใช้จ่าย คือความสิ้นเปลือง คือต้นทุนที่ธุรกิจพึงมีนั้น เปลี่ยนเป็นมุมมองที่คนคือความได้เปรียบในการแข่งขัน ยิ่งมีคนเก่งในองค์การมากเท่าไรก็เหมือนกับองค์การมีทุนที่เป็นสินทรัพย์ที่ประมาณค่ามิได้ที่จะทำให้องค์การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นคนจึงไม่ใช่ค่าใช้จ่ายอีกต่อไป คนจะต้องเป็นสินทรัพย์ที่องค์การจะต้องลงทุนเพื่อที่จะทำให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบในการแข่งขัน ทรัพย์สินที่มีค่าอย่างอื่นขององค์การเช่นตึกที่ใหญ่โต เครื่องจักรและเทคโนโลยีที่มีราคาแพงนั้นยิ่งใช้ไปมูลค่ายิ่งลดลง เวลาที่ผ่านไปก็ทำให้เทคโนโลยีหรือเครื่องจักรนั้นเสื่อมมูลค่า แต่คนยิ่งผ่านประสบการณ์มามากเท่าไรองค์ความรู้ที่เพิ่มขึ้นในตัวคนนั้นก็ยิ่งเพิ่มมูลค่าผิดกับทรัพย์สินที่จับต้องได้ที่นับวันยิ่งเสื่อมมูลค่าลง ดังนั้นคนจึงไม่ใช่ทรัพยากร (Resource) ที่ใช้แล้วหมดไป แต่คนคือทุน (Capital) ที่นับวันยิ่งสร้างมูลค่าอันมหาศาลที่จับต้องไม่ได้ เลียนแบบไม่ได้ ขโมยไม่ได้ตราบเท่าที่คนกลุ่ม Talent นั้นยังมี Commitment กับองค์การและทำงานให้กับองค์การและนี่คือเหตุผลในการให้คำจำกัดความที่ต่างกันของ Human Resource Management (HRM) กับ Human Capital Management (HCM) ในการมองคนว่ามีคุณค่าเปรียบเสมือนสินทรัพย์ที่เราไม่สามารถมองเห็นอันมีมูลค่ามหาศาล มากว่าทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป

HRM แห่งอนาคตในบริบทของวัฒนธรรมไทย

สำหรับมุมอง HRM ในบริบทของประเทศไทยในการที่จะใช้Strategic Human Resource Management แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการคนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนนั้น เราจะเห็นได้ว่าบริบทของวัฒนธรรมของตะวันตกกับตะวันออกนั้นอาจมีความแตกต่างกัน เนื่องจากตะวันตกนั้นจะมีความเป็นทางการในการบริหารและจะไม่ค่อยเอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องในการบริหารจัดการ ซึ่งต่างจากวัฒนธรรมทางตะวันออกที่คำนึงถึงความรู้สึกและมนุษย์สัมพันธ์ที่เป็นการส่วนตัว แต่ความต่างกันในบริบทของวัฒนธรรมที่ต่างกันนั้นสามารถดึงประโยชน์จากจุดเด่นของความต่างนั้นมาใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ได้ เช่นความไม่เป็นทางการ และความสัมพันธ์ที่เป็นส่วนตัวของวัฒนธรรมตะวันออกเช่น ญี่ปุ่นหรือไทยนั้นก็สามารถสร้างความสะดวกและรวดเร็วในการทำงานได้ สร้าง Commitment ให้เกิดกับองค์การได้ดังนั้น เราควรมองสิ่งที่เป็นข้อดีที่เราจะสามารถดึงมาใช้ได้จากวัฒนธรรมที่แตกต่างซึ่งความอ่อนโยนของวัฒนธรรมตะวันออกนั้นไม่ใช่จุดอ่อน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถดึงจุดแข็งของแต่ละวัฒนธรรมมาใช้ได้ไหม

จะเห็นได้ว่างานของ HRM นั้นเป็นงานที่จะต้องใช้ผู้ที่มีความสามารถที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่โดดเด่นจึงควรที่จะมีมาตรฐานคุณสมบัติของบุคคลของวิชาชีพนี้

การยกระดับของความเป็นวิชาชีพ HR ในประเทศไทย

งาน HRM นับจากปัจจุบันนี้ไปในอนาคตนั้น HRM นั้นจะต้องทำหน้าที่ทั่งการกำหนดกลยุทธ์ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO เป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO กับผู้บริหารระดับกลางหรือ Line Managers ในการที่จะแปลงกลยุทธ์และเป้าหมายต่างๆขององค์การออกมาเป็นวิธีการและเป้าหมายในระดับการปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังต้องรับหน้าที่ในการทีจะต้องให้คำปรึกษาและพัฒนาพนักงานในองค์การ เพื่อรองรับความต้องการและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้งานของ HR นั้นยังจะต้องทำการดูแลรักษาพนักงานในองค์การให้ทำงานได้อย่างมีความสุขและมี Commitment กับองค์การ ประสานและดูและผลประโยชน์ที่พนักงานควรได้รับจะเห็นได้ว่างานวิชาชีพ HR นั้นต้องมีความรู้ความสามารถที่รอบด้านเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่ม Talent ที่เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จขององค์การ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเป็น HR ที่ดีได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกานั้นยกฐานะของวิชาชีพ HR ให้เป็นเสมือนวิชาชีพที่สำคัญเช่น แพทย์ ทนายความ นักบัญชี เภสัชกร เป็นต้น ในสหรัฐอเมริกา SHRM นั้นจะเป็นหน่วยงานที่กำหนดมาตรฐานวิชาชีพให้แก่ผู้ที่จะเข้ามาทำงานสาย HR ทั้งหมด ซึ่งผู้ที่จะผ่านการรับรองได้นั้นจะต้องมีกระบวนการขั้นตอนในการทดสอบคุณสมบัติ ซึ่ง Certificate ที่รองรับคุณสมบัตินั้นก็ยังแยกออกเป็นอีกหลายระดับ ตั้งแต่ระดับที่มีความเข้มข้นของความรู้ความสามารถและทักษะพื้นฐานในระดับ พื้นฐาน จนกระทั่งระดับสูง

เกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินความสามารถเพื่อให้ได้มาซึ่ง Certificate ที่จะสามารถนำไปประกอบวิชาชีพ HR ได้นั้นต้องมีความชัดเจนและมีมาตรฐานที่สูงที่ไม่ใช่ทุกคนที่ขอจะได้การรับรอง ทุกคนที่ได้จะต้องมีคุณสมบัติต่าง ๆ โดยสังเขปคือ

ประการแรก สถาบันที่ออกใบอนุญาต (Certificate) นั้นจะต้องได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการและเป็นที่ยอมรับสากล ซึ่งสะท้อนจากการเป็นมืออาชีพ เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถและมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับ

ประการที่สอง บุคลากรที่เป็นคณะกรรมการที่จะให้การอนุมัตินั้นจะต้องมี KSAO ทางด้าน HR ที่เป็นที่ยอมรับ

ประการที่สาม ต้องมีกระบวนการและวิธีการในการประเมินที่ชัดเจน เช่น บุคคลที่จะสามารถขอ Certificate จะต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องนี้ หรือผ่านการทดสอบความรู้เบื้องต้นในด้าน HR จากนั้น จากนั้นต้องผ่านการฝึกอบรมใน Program ต่างๆจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับตามระดับขั้นของ Certificate ที่จะขอ อีกทั้งต้องพิจารณาจากประสบการทำงาน ผลงาน และ Commitment อันสะท้อนออกมาจากความต่อเนื่องในการพัฒนาตนเองสายวิชาชีพนี้ และการมีส่วนร่วมกับการอบรมและพัฒนาจากสถาบันที่เป็นผู้ออก Certificate อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น จึงไม่ใช่ว่าทุกคนที่จบด้าน HR มาจะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้ Certificate นี้ และไม่ใช่ว่าคนที่ไม่ได้เรียนจบด้าน HR มาจะไม่สามารถทำงานนี้ได้ ถึงแม้ไม่ได้เรียนทางด้านนี้มาแต่มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ และทักษะทางด้านนี้เพียงพอที่จะผ่านการประเมิน ก็สามารถที่จะได้รับ Certificate นี้ได้

บทสรุป

บทบาทหน้าที่และความสำคัญของวิชาชีพ HR ในอนาคตนั้น มี3ประการดังนี้คือ ประการแรก เป็น Partner ทางธุรกิจให้กับองค์การในการวางแผนกลยุทธ์และเป้าหมาย ประการที่สอง เป็นตัวกลางในการประสานงานกับ Line Managers ในการแปลงกลยุทธ์เป็นยุทธวิธี ในการทำงานให้สอดคล้องและ Fit กับเป้าหมายขององค์การ ประการที่สาม จะต้องเป็นตัวแทนของพนักงานในการรักษาผลประโยชน์พนักงาน รับรู้รับฟังถึงปัญหาอันเกิดขันจากการทำงาน รักษาขวัญกำลังใจพนักงานให้มีการพัฒนาความสามารถ ประสานการทำงานทุกส่วนขององค์การให้เป็นไปในทางเดียวกัน ประการที่สี่ จะต้องเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงขององค์การในการที่จะทำให้องค์การได้เปรียบในการแข่งขันและเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ

Mr. Howard A. Wallack Vice President Global Business Development ตัวแทนจาก the Society for Human Resource Management (SHRM)

Tag:
No items found.
Share this post:
KHON

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024