>
สงครามการแย่งตัวคนเก่งหลังโควิด-19 : อุปสรรคและโอกาสสำหรับองค์กรขนาดเล็กและกลาง
January 30, 2022

สงครามการแย่งตัวคนเก่งหลังโควิด-19 : อุปสรรคและโอกาสสำหรับองค์กรขนาดเล็กและกลาง

ท่ามกลางกระแสการลาออกครั้งใหญ่ทั้งในต่างประเทศ และในประเทศไทย ปฎิเสธไม่ได้ว่าเกือบทุกองค์กรต้องได้รับผลกระทบจากการที่พนักงานลาออกเป็นจำนวนมากเช่นนี้ ฉะนั้นทุกองค์กรต่างต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะดึงดูดคนเก่งๆให้เข้ามาร่วมงานด้วย องค์กรขนาดใหญ่มากมายต่างพัฒนาจุดเด่นขึ้นมาเป็นแม่เหล็กเพื่อดึงดูดและสร้างความน่าสนใจแก่ผู้สมัคร รวมไปถึงการรักษาพนักงานเหล่านั้น

เพื่อให้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงในสนามการแย่งชิงคนเก่งที่ชัดเจน ผู้เขียนขออนุญาติ ยกผลสำรวจจากWorkVenture ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานด้านการสรรหา และการสร้าง Employer Branding ได้มีการทำการสำรวจบริษัทที่คนรุ่นใหม่ต้องการเข้าร่วมทำงานมากที่สุดมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไป 5 ปีที่แล้วในปี 2017 จะพบว่า 20 อันดับแรก ส่วนใหญ่มักจะเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน มีสินค้าและบริการที่มักจะใช้ในชีวิตประจำวันเกือบทั้งหมด อาจจะมียกเว้นบริษัทเทคโนโลยี 4 บริษัท ที่ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่แม้จะก่อตั้งมาไม่นานนัก แต่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีลูกค้าหรือผู้ใช้ในระดับโลกแทบทั้งสิ้น แต่เมื่อมาดูผลสำรวจในปัจจุบันในปี 2022 ซึ่งห่างจากผลสำรวจที่มาเปรียบเทียบ 5 ปี จะพบว่าในบริษัทที่เข้ามาติดอันดับใหม่จะเป็นบริษัทที่ทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง และชัดเจน รวมไปถึงมีชื่อเสียงในการทำงานแบบสมัยใหม่ หรือสินค้าและบริการนั้นสนับสนุนการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่ค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น Shoppee/Apple/Bitkub/AIS/Lazada เป็นต้น และบริษัทในวงการสื่อและบันเทิงที่เคยเป็นที่นิยมถึง 3 บริษัทใน 20 อันดับแรกกลับหายไปไม่ติดใน Top 50 อันดับเสียด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าหากไปดูเพิ่มเติมถึง Top 50 เราจะพบว่าจริงๆแล้วก็ยังมีบริษัทสื่อและบันเทิงที่ติดอันดับอยู่ คือ Workpoint และมีบริษัทน้องใหม่ที่มีแบรนด์ค่อนข้างชัดเจนอย่าง The standard ,Khotkool เข้ามาติดอันดับแทน

รูปที่ 1: เปรียบเทียบบริษัทที่คนรุ่นใหม่ต้องการร่วมงานจาก WorkVenture

หากเจาะลึกจากข้อมูลที่ Workventure เก็บจากทั้งกลุ่มนักศึกษาและหนุ่มสาววัยทำงาน ช่วงอายุระหว่าง 21-35 ปี จำนวนกว่า 10,000 คน ผ่านการทำผลสำรวจแบบออนไลน์ พบว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกองค์กรยังคงมีอิทธิพลจากปัจจัยหลักอย่างผลตอบแทน/เงินเดือน สวัสดิการ วัฒนธรรมองค์กรหรือไลฟ์สไตล์ในที่ทำงาน ตามลำดับ ส่วนปัจจัยที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือเรื่อง ‘อิสระในการทำงาน’ ทำให้บริษัทที่มีนโยบายการทำงานรูปแบบไฮบริดกลายเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ซึ่งจากปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นข่าวดีของบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่จะเห็นว่าแม้บริษัทขนาดใหญ่จะยังเป็นที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่อยู่ แต่บริษัทที่ขนาดกลาง ที่ไม่ใหญ่นัก ก็ยังสามารถที่จะดึงดูดคนรุ่นใหม่ได้ด้วยปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากผลตอบแทน และสวัสดิการ ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นจาก 50 อันดับแรกของบริษัทที่คนรุ่นใหม่ร่วมงานด้วยนี้ ก็มีบริษัทขนาดกลาง รวมอยู่ด้วยเหมือนกัน ต่างจากเมื่อห้าปีก่อนที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่แทบทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดีในการเข้าร่วมสงครามการแย่งคนเก่งของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กนี้ ก็มีข้อเสียเปรียบอยู่หลายประการ อาทิ บริษัทขนาดกลางและเล็กไม่ได้มีความน่าดึงดูดในระดับ Top of mind สำหรับการหางาน และบริษัทขนาดกลางและเล็กไม่ได้มีทุนหรือทรัพยากรในระดับสูงมากเพื่อที่จะจ่ายเงินเพื่อดึงดูดคนเก่งๆให้เข้ามาร่วมงานด้วย และเรื่องสุดท้ายคือบริษัทขนาดกลางและเล็กมักจะมีทีม HR ที่ไม่มากนัก ทั้งในแง่ของจำนวนและความเชี่ยวชาญ ยกตัวอย่างเช่นผลสำรวจใน AchieveNEXT ซึ่งเป็นการสำรวจในแวดวงบริษัทใน Denver สหรัฐอเมริกา ระบุว่ามีบริษัทขนาดกลางและเล็กเพียง 18% ที่สามารถจะจ้างผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านของงาน HR มาดูแลได้ ทำให้งานส่วนใหญ่ของ HR จะเป็นงานประจำที่ต้องทำไปในแต่ละวัน จนไม่มีเวลามาโฟกัสในงานที่มีลักษณะการวางกลยุทธ์ หรือสร้างแบรนด์นายจ้าง จึงส่งผลให้บริษัทเหล่านี้มีขีดความสามารถการต่อสู้ในสงครามการแย่งคนเก่งได้น้อยกว่าบริษัทขนาดใหญ่ที่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพร้อมรับหน้าที่เหล่านี้อยู่แล้วอย่างมาก

แต่อย่างที่กล่าวในตอนต้นจากผลสำรวจว่า ก็มีบริษัทขนาดกลางและเล็กที่สามารถดึงดูดคนเก่งได้เช่นกัน ซึ่งในบทความนี้จะมาชวนคิดพิจารณาใน 3 ประเด็น เพื่อให้องค์กรของท่านยังสามารถดึงดูด และรักษาคนเก่งไว้ได้แม้จะเจอการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นมากอย่างเช่นในปัจจุบัน

ประเด็นที่ 1 ระบุกลุ่มเป้าหมายในการดึงดูดคน หรือรักษาคนของท่านให้ชัดเจน - ก่อนที่จะเริ่มเข้าสงคราม ท่านก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าทรัพยากรอะไรคือสิ่งที่ท่านยังขาดอยู่ เช่น ท่านกำลังหาผู้บริหารระดับกลาง หรือกำลังหาผู้เชี่ยวชาญมือดีเข้ามาในบริษัท เพื่อที่จะสร้างเป้าหมายที่ชัดเจน  เพราะบริษัทระดับกลางหรือระดับเล็กไม่ได้ขาดแคลนคนในทุกตำแหน่ง ผลสำรวจจากธุรกิจขนาดกลางและเล็กจาก AchieveNEXT พบว่า มีเพียง 3% ที่บอกว่าพวกเขาสามารถหาผู้เชี่ยวชาญได้ง่าย แต่ในขณะที่ 79% ระบุว่าการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาสมัครงานนั้นยากมากๆ ซึ่งถ้าหากสามารถระบุได้ว่า เป้าหมายคนเก่งขององค์กรที่ต้องเร่งหาคือตำแหน่งอะไร หลังจากนั้นคุณก็ต้องพยายามเพิ่ม Talent Pool ของคุณในตำแหน่งงานนั้นๆให้มากขึ้น ถ้าเปรียบเทียบอาจจะเหมือนกับการบริหาร Supply Chain คือคุณต้องเตรียมสินค้า เตรียมแหล่งหาสินค้าหลายๆแหล่ง เพื่อที่จะมีสินค้าทดแทนอยู่เสมอ การบริหารคนเก่งก็เช่นกัน คุณต้องเพิ่มคลังคนเก่งจำนวนมาก เพื่อสนับสนุนและเติมคนเก่งเข้ามาในองค์กรของคุณเช่นเดียวกัน

ประเด็นที่ 2 ปรับปรุงระบบการสรรหา และการ Onboarding พนักงานใหม่ ให้น่าดึงดูด – สำหรับในเรื่องนี้สามารถเริ่มต้นได้จากการเขียนโฆษณาเพื่อหาพนักงาน แทนที่จะเน้นไปที่หน้าที่ของงาน หรือ Specification ต่างๆ รวมไปถึงคุณสมบัติต่างๆที่องค์กรต้องการ คุณอาจจะต้องเริ่มที่การมาทำงานกับคุณนั้นจะมีประโยชน์อะไรกับตัวของเขาบ้าง ซึ่งเราอาจจะเห็นจากโฆษณาการสรรหาสมัยใหม่อย่างเช่นของ Wongnai ที่มีการใช้ภาพบรรยายผ่านทาง Social Media ก่อนที่จะเข้าไปที่เรื่องของตำแหน่งงาน คุณสมบัติของพนักงาน

นอกจากนี้คุณควรใช้เครือข่ายทั้งของคุณ และของพนักงานให้มีประโยชน์ ผลสำรวจจาก AchieveNEXT พบว่าวิธีการที่ดีที่สุดในการสรรหาพนักงานใหม่นั้นคือการบอกต่อ หรือที่เรียกว่า Referral Program ซึ่งข้อดีในการได้พนักงานจาก Referral Program นั้น คือคุณจะได้คนที่มีคุณสมบัติ และลักษณะนิสัยสอดคล้องกับสิ่งที่องค์กรเป็นและต้องการ เพราะว่าการที่พนักงานจะแนะนำเพื่อน หรือคนรู้จักให้เข้ามาสมัครงานในบริษัทของตนเองนั้น มักจะต้องเป็นคนที่พนักงานรู้สึกว่าเป็นคนที่เข้ากับตนเองได้ มีความสามารถในระดับที่ตัวพนักงานเองนั้นยอมรับได้จึงจะกล้าที่จะชวนคนคนนั้นให้เข้ามาทำงานร่วมกันที่บริษัท จึงมีโอกาสสูงมากที่ผู้สมัครที่ได้รับการแนะนำต่อมาจากพนักงานนั้นจะเป็นคนที่สามารถทำงานร่วมกับองค์กรได้เป็นอย่างดี

ประเด็นที่ 3 มีกลยุทธ์ในการดูแลรักษาพนักงานของคุณได้ดี – จริงอยู่ที่บ่อยครั้งพนักงานของคุณย้ายงานจากการไปเติบโต หรือได้ค่าจ้างที่ดีกว่า แต่จริงๆแล้วมุมมองของพนักงาน กับนายจ้างอาจจะไม่ตรงกัน ดังเช่นผลสำรวจจาก McKinsey & Company ที่นายจ้างคิดว่าพนักงานลาออกเพราะสามปัจจัยหลักคือ เงิน/Work-Life Balance และสุขภาพกายและใจ ในขณะที่ถ้าไปถามฝั่งพนกงาน จะพบว่าปัญหาสามอันดับแรกคือ รู้สึกว่างานของตนเองไม่มีคุณค่าต่ององค์กร (54%) จากปัญหาหัวหน้างาน (52%) และการไม่รู้สึกอินกับงาน (ขาด Sense of Belonging) (51%) ซึ่งการที่คุณไม่เข้าใจพนักงาน ก็จะทำให้แผนงานในการดูแลพนักงานของคุณไม่มีทางสำเร็จได้เลย (คุณสามารถดูมุมมองที่แตกต่างของนายจ้าง และพนักงานได้ที่รูปที่ 2 และ 3

รูปที่ 2 : สาเหตุการลาออกจากมุมมองพนักงาน                                 รูปที่ 3 : สาเหตุการลาออกจากมุมมองนายจ้าง

ดังนั้นคุณควรที่จะวิเคราะห์ปัญหาขององค์กรของคุณว่า อะไรที่เป็นแรงดึงดูดใจสำหรับพนักงาน และสร้างแรงดึงดูดใจเหล่านั้นเพื่อดึงดูดคนเก่งของคุณให้อยู่กับองค์กร โดยอาจจะผ่านการทำ Engagement Survey การทำ Focus Group สม่ำเสมอ หรือเปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็น และมีการ Feedback พนักงานทุกครั้งเมื่อพนักงานแสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างแรงดึงดูดพนักงาน ซึ่งการสร้างแรงดึงดูดนี้จะช่วยสนับสนุนกลยุทธ์การทำ Referral Program ของคุณให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะถ้าพนักงานไม่รู้สึกว่าองค์กรของตนเองมีดี มีความน่าสนใจที่น่าทำงานด้วย พนักงานก็จะไม่กล้าที่จะชักชวนเพื่อน หรือคนรู้จักให้เข้ามาร่วมงานในองค์กรด้วยเช่นกัน

สุดท้ายนี้แม้ว่าคุณจะไม่ใช่องค์กรระดับยักษ์ใหญ่ที่มีงบประมาณมหาศาล พร้อมไปด้วยเครื่องมือในการดึงดูดคนเก่ง คุณก็สามารถที่จะปรับแนวทางบริหารงานของคุณให้สามารถดึงดูดใจคนเก่งได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นอย่าท้อที่จะปรับปรุงวิธีการใหม่ๆในการดึงดูดพนักงานอยู่เสมอ เพราะในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติอย่างปัจจุบันนี้ มดตะนอยตัวเล็ก ก็สามารถที่จะออกล่าช้างแมมมอธได้เช่นกัน

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Reference

https://www.lever.co/wp-content/uploads/2020/09/11-Recruiting-Trends-for-Mid-Sized-Companies.pdf?mkt_tok=MjkzLUFPUS0wMjQAAAGCWM462V0jTagLHIhDSiAFv-R9pOdkjJfsxJVRh41E8fDstfTnOY2wqwMRs1NB3i3yuI2rrVTRXLRIkjULjkvTkMNIssNY65Uidwy2ekKwiw

https://www.techhub.in.th/50-good-work-for-gen-y-workventure/

https://thestandard.co/workventure-top-50-organizations-for-young-people-2022-poll/

https://hbr.org/sponsored/2022/01/how-to-attract-top-talent-in-2022

https://www.forbes.com/sites/robertsher/2020/01/14/how-midsize-companies-grow-their-own-talent-right-out-of-college/?sh=2ed03b8e7aa8

https://hbr.org/2021/12/how-midsize-firms-can-attract-and-retain-talent-right-now

https://www.mckinsey.com/business-functions/people-and-organizational-performance/our-insights/great-attrition-or-great-attraction-the-choice-is-yours

Tag:
No items found.
Share this post:
วัฒนศักดิ์ วิบูลย์ชัยกุล

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024