>
วิธีคิดจากโรงพยาบาลสนาม สู่สนามผู้นำยุค Covid-19
July 14, 2021

วิธีคิดจากโรงพยาบาลสนาม สู่สนามผู้นำยุค Covid-19

กว่า 1 ปี 6 เดือนที่แทบทุกในสนามรบโควิด-19 ที่ทุกประเทศต้องพบเจอคือการระบาดที่สูงจนทำให้ระบบสาธารณสุขปกติไม่สามารถรับมือได้ จึงต้องมีสิ่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ไวรัสนี้ นั่นก็คือโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเป็นปราการด่านสำคัญที่ช่วยรับมือกับผู้ป่วย และเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยกดกราฟผู้ติดเชื้อให้ต่ำลงเพื่อจำกัดการระบาดของโควิด-19 ได้อีกด้วย อย่างในประเทศไทยเองเรามีโรงพยาบาลสนามมากกว่า 37 แห่งทั่วประเทศ และเตียงรองรับผู้ป่วยถึง 25,000 เตียง ซึ่งโรงพยาบาลสนามเป็นสิ่งที่ต้องจัดตั้งอย่างเร่งด่วนและประกอบไปด้วยการบริหารจัดการที่มากมาย หลากหลายฝ่าย และเผชิญปัญหาที่ไม่สามารถคาดเดาได้มากมาย

ดังนั้นบทความนี้จึงชวนกันมาถอดรหัสการจัดการในโรงพยาบาลสนามที่เรียกได้ว่าต้องรับมือผู้ป่วยมากอันดับต้นๆของโลก อย่าง the NHS Nightingale London ในประเทศอังกฤษ และ Boston Hope Hospital ในประเทศสหรัฐอเมริกา นำมาปรับใช้กับสนามผู้นำยุค Covid-19 โดยสามารถแบ่งออกมาเป็น 8 ข้อ ดังนี้

1. ยอมรับในความไม่แน่นอน - สถานการณ์ในโรงพยาบาลสนาม เราไม่สามารถจะคาดเดาได้ว่าจำนวนผู้ป่วย รวมไปถึงความรุนแรงของผู้ป่วยที่จะได้พบเจอนั้นจะมากน้อยเพียงใด ฉะนั้นเรื่องพื้นฐานอย่างการสต๊อคยาและเวชภัณฑ์ก็ยังเป็นเรื่องที่ประมาณการได้ยาก ฉะนั้นแม้ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงเพียงใด คุณจำเป็นต้องอาศัยการสอบถาม และประเมินจากคนหน้างานจริงเพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที เช่นเดียวกันกับโลกยุคโควิด ที่ตอนนี้แม้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการกระจายของวัคซีนในทุกพื้นที่ในโลกใบนี้ แต่ก็ยังยากที่จะคาดเดาได้ว่าคุณจะต้องเจอกับอะไร ยกตัวอย่างเช่นสถานการณ์ในประเทศไทยที่ไม่มีผู้ติดเชื้อมาเป็นเวลานาน แต่ในปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้ออยู่ในหลักพันในเกือบทุกๆวัน ซึ่งก็ส่งผลต่อการเปิดปิดของกิจการต่างๆเป็นอย่างมาก และส่งผลกับการดำเนินงานขององค์กรโดยตรง ฉะนั้นการเปิดใจและคอยรับความเห็นจากคนหน้างาน จะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเหล่านี้ได้ดีขึ้น

2. จัดเรียงลำดับความสำคัญโดยตรวจสอบกับสถานการณ์อยู่เสมอ - ด้วยความที่โรงพยาบาลสนามมีความจำกัดในทรัพยากรเป็นอย่างยิ่ง การจัดลำดับความสำคัญจึงเป็นเรื่องใหญ่อย่างมากในการจัดการโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างดีที่สุด และตอบสนองคนไข้ในจำนวนมากได้ โดยในต้องมีการ Review กันอยู่เสมอ ๆ ว่าการจัดลำดับความสำคัญหรือสิ่งที่ลงมือทำไปนั้นดีพอแล้วหรือยัง ยกตัวอย่างการจัดการของ NHS Nightingale จะมีการประชุมประจำวันตลอดว่า สถานการณ์ปัจจุบันเราทำได้ดีมากน้อยเพียงใด ยังมีอะไรที่ต้องปรับอีกบ้าง ซึ่งโลกยุคโควิดในสนามธุรกิจ ก็มีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และก็มีทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นคน หรืองบประมาณที่จำกัดเช่นเดียวกัน จึงต้องระวัง และทำการจัดเรียงลำดับความสำคัญอยู่เสมอเช่นกัน เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางให้ไปสู่ทิศทางที่เหมาะสมอยู่เสมอ

3. มอบหมายอำนาจให้ทีมงาน - ในโรงพยาบาลสนามเมื่อมีเคสเข้ามา คนที่จะต้องได้รับมอบหมายให้เข้ามาจัดการจะไม่ได้ดูจากตำแหน่ง อายุ หรือใบรับรองใดของคนนั้น หากแต่เป็นความเชี่ยวชาญของคน ๆ นั้นที่สามารถรับมือกับสถานการณ์นั้น ๆ ได้ ดังนั้นทุกเคสที่ดูแลจึงจะเป็นคนที่มีความสามารกับเรื่องนั้น ๆ มากที่สุดที่จะได้เข้ามาดูแลเรื่องนั้น ๆ เหมือนกับการทำงานในสนามของผู้นำ ที่ต้องแบกความรับผิดชอบมากมาย แต่ไม่ว่าจะเก่งขนาดไหน ก็ต้องมีการมอบหมายงานให้กับคนอื่น ๆ ในทีมที่มีความสามารถบ้าง ไม่อย่างนั้นความเก่งของทีมงานก็จะเป็นความเก่งของหัวหน้าทีมทีมนั้นเท่านั้น ไม่สามารถจะเรียกพลัง หรือผลักดันผลงานของทีมงานได้สุด

4. อย่าลังเลที่จะเผด็จการบ้างในเวลาจำเป็น - การทำงานที่เป็นประชาธิปไตย ให้โอกาสทุกคนในการตัดสินใจเป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางสถานการณ์ อย่างในโรงพยาบาลสนาม บางครั้งกิจกรรมที่ไม่เกิดประโยชน์ หรือเคสที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันมากแม้ในผู้เชี่ยวชาญกันเอง ก็จะต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดเพื่อให้งานรักษาไปต่อได้ทันท่วงที เช่นเดียวกันกับสนามของผู้นำ ที่ในบางครั้งเรามีโอกาสที่จะเจอสิ่งที่จะนำพาองค์กรเราไปข้างหน้าได้ แต่คนในองค์กรของเราอาจจะไม่เห็นด้วย บางครั้งก็อาจจะต้องตัดสินใจฝืนความเห็นของคนในทีมบ้าง เช่นตัวอย่างของคุณคมสันต์ ลี ที่นำการเปลี่ยนผ่านองค์กรที่เขาได้ให้ชื่อว่าเป็นช่วงสู้เพื่ออยู่รอด โดยการให้ทุกฝ่ายสามารถทำอย่างไรก็ได้ให้มียอดขาย จนเกิดช่อง เกิดโอกาสที่จะทุจริต และเขาต้องเปลี่ยนแปลงองค์กรโดยการใช้กฎระเบียบมาจับมากขึ้น ซึ่งก็มีพนักงานจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย แต่เขาก็ต้องตัดสินใจเปลี่ยนแปลงจนสามารถเติบโตเป็นยูนิคอร์นได้ในปัจจุบัน

5. Feedback รวดเร็ว และพร้อมเสมอในการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน - ในโรงพยาบาลสนามทั้ง the NHS Nightingale London ในประเทศอังกฤษ และ Boston Hope Hospital ในประเทศสหรัฐอเมริกา ล้วนแล้วแต่ใช้ส่งข้อมูลให้นายเป็นชั้นๆเพื่อตัดสินใจน้อยมาก แตกต่างกับระบบการตัดสินใจแบบปกติของโรงพยาบาล โดยสิ่งที่ทั้งสองโรงพยาบาลสนามใช้คือนำเอาการใช้การประเมินจากข้อมูลจริง และการประชุมของผู้เชี่ยวชาญ เป็นการตัดสินใจหลัก ซึ่งจะง่ายต่อการรับ Feedback และสามารถปรับปรุงพัฒนาวิธีการรักษาหรือบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี โดยทั้งสองโรงพยาบาลสนามหกาพบว่าต้องมีการแก้ไข หรือปรับวิธีการก็จะทำได้ทันที โดยไม่ต้องส่งเรื่องไปให้ผู้บริหารระดับใดเพื่อพิจารณาอีก ถ้าจะให้เปรียบเทียบวิธีการทำงานแบบนี้ กับสนามผู้นำยุคโควิด-19 อาจจะเทียบเคียงได้กับการทำงานแบบ Agile ที่เน้นเอายอดฝีมือหลากหลายหน่วยงานมาทำงานร่วมกัน เพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าให้ได้รวดเร็ว และตรงกับปัญหาได้มากที่สุด

6. สร้างมาตรฐานการทำงานที่สูงพอที่จะเชื่อใจกัน – การทำงานแบบที่บอกว่า ลองดูไปก่อน ค่อยติดตามว่าผลจะเกิดอะไรขึ้น พอมาอยู่ในโรงพยาบาลสนามอาจจะเป็นการทำงานที่ดูเสี่ยงกับผู้ป่วยไปสักหน่อย ฉะนั้นการทำงานในโรงพยาบาลสนามจึงจะต้องมีความวัดได้ และมีการจำกัดความเสี่ยงให้ความผิดพลาดไม่ได้มีมากจนเกินไป ส่วนในแง่สนามผู้นำที่จะต้องเจอนั้น แม้ว่าโลกปัจจุบันจะส่งเสริมให้มีการทนต่อความล้มเหลวเล็กๆน้อยๆได้ แต่อย่าลืมว่า เราสามารถทนในความผิดพลาดเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ แต่เราไม่สามารถทนกับการทำงานที่ไม่ได้มาตรฐาน และไร้ความสามารถนั้นได้เช่นกัน เพราะการทำงานแบบนั้นไม่ก่อให้เกิดผลดีใด ๆ ไม่ว่าจะเรื่องการสร้างนวัตกรรม หรือการพัฒนาของงาน (Gary P. Pisano,2019) ยกตัวอย่างเช่นที่ pixar ผู้กำกับคนใดที่ไม่สามารถทำให้โครงการของตนเองเดินหน้าได้ก็จะถูกให้ออกและเปลี่ยนคนใหม่โดยไม่ลังเล อีกทั้งโลกในยุคการทำงานแบบ Hybrid Working ที่จำเป็นต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน สิ่งที่จำเป็นที่จะสร้างความเชื่อใจระหว่างกันนั้น คือความสามารถของอีกฝ่ายหนึ่งที่จะสามารถสร้างผลงานได้อย่างเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้นการพัฒนาความสามารถให้กับทีมงาน และการกำหนดเป้าหมายของงานที่ชัดเจนจึงเป็นเรื่องจำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยอาจจะเริ่มต้นจากสี่ทักษะที่จำเป็นกับโลกยุคใหม่ตามที่คุณวสุธรได้เสนอเอาไว้ใน 4 ทักษะใหม่ที่พนักงานที่ต้องใช้ทำงาน Hybrid ในช่วง Pandemic

7. ดูแลทีมงานทั้งใจและกาย - การทำงานในโรงพยาบาลสนามก่อให้เกิดความเหนื่อยล้าเหนื่อยอ่อนเป็นอย่างมากทั้งใจและกาย เรียกได้ว่าเป็นการเอาพลังงานของบุคคลากรทางการแพทย์มาใช้กันจนถึงจุดขีดสุดกันตลอด แถมยังต้องพบกับความเสี่ยงแทบจะตลอดเวลาการทำงาน ดังนั้นโรงพยาบาลสนามจึงต้องมีการดูแลทีมงานไม่ว่าจะเป็นการแบ่งโซนการทำงาน โซนพักผ่อน อุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็นครบถ้วน ไปจนถึงทีมที่เรียกว่า The Compassionate Care Team หรือเราอาจจะเรียกได้ว่าทีมดูแลใจ ที่จะคอยดูแลสภาพจิตใจให้กับทีมงาน ในขณะเดียวกัน ถ้าเราหันมาดูสนามรบของผู้นำในยุค Covid-19 เราก็จะพบว่าพนักงานของเรามีความเหนื่อยอ่อน ทั้งจากความเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลัน หรือแม้กระทั่งการ Work from Home ที่กระชากเวลาส่วนตัวของพนักงานออกไปอย่างมากมาย จนกระทั่งเกิดอาการ Burnout หมดไฟ หมดพลังไปอย่างมากมาย ยกตัวอย่างผลสำรวจจาก Harvard Business Review ที่สำรวจกับผู้อ่านของตนเองที่เป็นผู้คนที่อยู่ในแวดวงการทำงานและทำธุรกิจกว่า 3,000 คน พบว่า 85% ของคนที่ตอบเห็นตรงกันว่าโควิด-19 ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาย่ำแย่ลง โดยถ้าเจาะลึกลงไปจะเป็นเรื่องของสุขภาพจิดใจถึง 50% รองลงมาเป็นเรื่องของการที่ต้องทำงานที่มากขึ้นอีก 26% และการถูกตัดขาดการสื่อสารกับผู้อื่น และ การเติมเต็มปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิต อีก 20% เท่ากัน (ภาพด้านล่าง) ฉะนั้นคุณควรที่จะดูแลจิตใจทีมงานของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสื่อสาร การมีกิจกรรมออนไลน์ หรือถ้าคุณคิดไม่ออก ในสถานการณ์ที่เป็น Hybrid working แบบนี้ อาจศึกษาเพิ่มเติมจากบทความของคุณชินภัทร์ บริหารทีมทางไกลอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน เพื่อหาไอเดียมาดูแลทีมงานของเรา และบริหารผลงานของทีมงานเราได้ด้วย

8. ใกล้ชิดกับทีมงานอยู่เสมอ – ในโรงพยาบาลสนามบุคคลากรทุกคนต้องทำงานหนักมาก แต่สิ่งหนึ่งที่กลุ่มตัวอย่างทั้งสองแห่งเห็นตรงกันคือ ถ้าเขารู้สึกว่า เจ้านาย หรือทีมงานอยู่ข้าง ๆ กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถติดต่อสอบถาม หรือขอความช่วยเหลือจากหัวหน้างานระดับซีเนียร์ได้จะเป็นสิ่งที่บุคคลากรชอบมาก ซึ่งในข้อนี้ถ้าหันกลับมาดูในสนามผู้นำยุคโควิด-19 นี้ จะเห็นว่าปกติปัญหานี้เราจะไม่มีมากเท่าไหร่ เพราะทุกคนก็ต่างทำงานในออฟฟิต หัวหน้างานก็อยู่ใกล้ชิดกันได้อยู่แล้ว แต่เมื่อทุกคนเริ่มใช้การทำงานแบบ Hybrid Working เริ่มไม่ต้องเข้าออฟฟิตพร้อม ๆ กัน ก็เริ่มจะมีปัญหาว่าแล้วจะทำอย่างไรให้ทีมงานรู้สึกว่า ทุกๆคนก็อยู่ใกล้ ๆ กัน ฉะนั้นหัวหน้าทีมก็จะต้องสร้างความเชื่อมั่น เชื่อใจว่าสามารถเป็นที่พึ่งพิงให้น้อง ๆ ได้อย่างสม่ำเสมอ เช่นการมีการคอลไปสอบถามพูดคุย (ไม่ใช่โทรตามงานนะครับ) แต่เป็นการสอบถามหาความคับข้องใจต่าง ๆ เพื่อที่จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาได้ทันเวลา หรืออาจจะใช้การสร้าง Engagement โดย Activities ออนไลน์ แบบที่คุณภคภัคเคยนำเสนอไว้ใน HR กับการสร้าง Engagement ผ่านระบบ online ในช่วง Work from Home ก็เป็นแนวทางที่น่าสนใจและนำไปประยุกต์ได้ดีทีเดียว

ทั้งแปดข้อนี้ก็เป็นวิธีคิดที่โรงพยาบาลสนามชั้นนำได้นำมาใช้และบริหารงานจนผ่านวิกฤตกันมาได้ แต่ในสนามผู้นำยุคโควิด-19 นี้ ก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า สนามนี้จะต้องยาวนานไปถึงเมื่อใด หรือจะต้องพบเจออะไรในอุปสรรคบนสนามนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นแน่ชัดคือ ถ้าหากเราเตรียมพร้อมที่จะลงสนามผู้นำนี้เป็นอย่างดี ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง บนพื้นฐานของสติ และความไม่ยอมแพ้ จะนำพาความสำเร็จเข้าสู่สนามของคุณได้อย่างแน่นอน

อ้างอิง

https://hbr.org/2019/01/the-hard-truth-about-innovative-cultures?autocomplete=true

https://www.gartner.com/smarterwithgartner/4-actions-to-be-a-good-leader-during-covid-19-disruption/

https://hbr.org/2020/11/10-leadership-lessons-from-covid-field-hospitals

https://hbr.org/2021/02/what-covid-19-has-done-to-our-well-being-in-12-charts

https://hbr.org/2020/08/leading-into-the-post-covid-recovery

https://www.youtube.com/watch?v=xHHFDPuto64&t=33s - คมสันต์ ลี Flash Express ยูนิคอร์นรายแรกของไทย ตอน 2 อันธพาลในสนามโลจิสติกส์ The Secret Sauce EP.390

Tag:
No items found.
Share this post:
วัฒนศักดิ์ วิบูลย์ชัยกุล

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024