>
การทำงานและการใช้ชีวิตที่ไร้เส้นแบ่ง (Work-Life Integration)
March 8, 2021

การทำงานและการใช้ชีวิตที่ไร้เส้นแบ่ง (Work-Life Integration)

ผลการศึกษาโดยสถาบันวิจัย The Stanford Life Design Lab ในสหรัฐอเมริกาพบว่า ในแต่ละช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่งควรประกอบไปด้วยการสร้างสมดุลใน 4 ส่วน คือ Work (การทำงาน) Health (การดูแลรักษาสุขภาพ) Love (การอยู่กับคนที่เรารักและห่วงใย) และ Play (การทำสิ่งที่เราชอบนอกเหนือจากงาน) อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงเราอาจจะให้เวลาในแต่ละส่วนในแต่ละช่วงของชีวิตไม่เหมือนกัน เช่น ตอนที่ยังหนุ่มสาวเราอาจใส่ใจในสุขภาพ (Health) ได้ไม่มากเท่าตอนที่มีอายุมากขึ้น หรือช่วงที่ยังโสดก็อาจจะให้เวลากับกิจกรรม (Play) ได้มากกว่าหลังจากแต่งงานแล้ว ซึ่งมีภาระต้องดูแลคนในครอบครัว (Love) เป็นต้น นอกจากนั้น ความก้าวหน้าของระบบสารสนเทศ และการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต ทำให้ทุกคนสามารถทำงานได้โดยไม่จำกัดสถานที่และเวลา เทคโนโลยีช่วยเชื่อมต่องานและชีวิตส่วนตัวให้เกี่ยวพันกันจนแทบจะแยกไม่ออก ทำให้การสร้างสมดุลระหว่างการใช้ชีวิต ( Health- Love-Play) และการทำงาน (Work) เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ปัญหาที่ตามมาจากการขาดสมดุล คือ ความล้าและความเครียดทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เวลาที่ให้กับตนเองและครอบครัว รวมทั้งโอกาสในการเข้าสังคมน้อยลง ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเนื่องจากขาดการพักผ่อน จึงเกิดแนวคิดในการผนวกการทำงานให้หลอมรวมเข้ากับการใช้ชีวิตส่วนตัว ไม่พยายามแยกเพื่อสร้างสมดุล (Work-Life Balance) แนวคิดการทำงานและการใช้ชีวิตที่ไร้เส้นแบ่งนี้เรียกว่า Work-Life Integration หรือ Work-Life Blended

Work-life Integration เป็นการผสานการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวให้เกิดขึ้นแบบ “ไร้รอยต่อ” ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น นั่งทำงานที่บ้าน ร้านกาแฟ หรือสถานที่แบบ Co-working Space พร้อมกับประชุมงานผ่าน Video Call  ไปด้วย เทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบันช่วยให้เราสามารถปรับรูปแบบการใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ กำหนดตารางเวลาสิ่งที่ต้องทำได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นจากที่องค์กรเคยช่วยพนักงานสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) จึงเริ่มปรับเปลี่ยนสู่ Mode การทำงานแบบผสมผสาน Work + Leisure หรือ “Weisure” ให้สอดรับกับพนักงานรุ่นใหม่ที่เป็นพวกดิจิทัลนอแมด (Digital Nomad) หรือกลุ่มคนที่เดินทางท่องเทียวไปตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับทำงานไปด้วย

แนวคิดการทำงานแบบผสานงานกับการใช้ชีวิตเข้าด้วยกัน (Work-Life Integration) มาพร้อมกับอิสรภาพและความยืดหยุ่นในการที่จะสลับไปมาระหว่างความต้องการที่จะทำงานและการใช้เวลาส่วนตัว จึงต้องได้รับการสนับสนุนจากองค์กร เช่น การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เชื่อมต่อการทำงานที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน การกำหนดตารางเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่นสำหรับบางหน้าที่บางตำแหน่งให้สามารถทำงานจากที่บ้านได้ รวมทั้งการใช้ตัวชี้วัดผลสำเร็จหรือ Key Performance Indicator (KPI) ที่เน้นผลลัพธ์ของงานมากกว่ากระบวนการทำงาน ตัวอย่างขององค์กรที่นำแนวคิดดังกล่าวมาใช้ เช่น Airbnb ที่ให้บริการแบ่งปันที่พักอาศัยที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก ได้ให้เงินพนักงาน 2,000 ดอลลาร์ เพื่อไปพักผ่อนในที่พัก Airbnb ที่ใดก็ได้ในโลก ซึ่งพนักงานนอกจากจะได้พักผ่อนแล้วยังมีโอกาสศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อนำไปเป็นข้อมูลปรับปรุงบริการควบคู่ไปด้วย

การผสานงานกับการใช้ชีวิตเข้าด้วยกัน (Work-Life Integration) จึงเป็นการกำหนดเป้าหมายสำหรับการใช้เวลาในแต่ละส่วนทั้ง Work/ Health/ Love/ Play ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิตของเราให้เหมาะสม ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการใช้เวลาในภาพรวมในแต่ละสถานการณ์ของแต่ละบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แต่ควรออกแบบให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของตนเองให้มากที่สุด

ฐานเศรษฐกิจ, 2561.  ‘การทำงานและการใช้ชีวิตที่ไร้เส้นแบ่ง (Work-Life Integration)’, 14 มิถุนายน 2561,  pp. 26

HR Society Magazine, ‘การทำงานและการใช้ชีวิตที่ไร้เส้นแบ่ง (Work-Life Integration)’ ธรรมนิติ. Vol. 16, No 186, หน้า 18 - 21, มิถุนายน 2561

Tag:
No items found.
Share this post:
ดร.ณัฐวุฒิ พงศ์สิริ

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024